วันจันทร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

"สุกำพล"แถลงโชว์หลักฐานสำคัญ"สด.9"ตัวจริง! ยัน"อภิสิทธิ์"ไม่ได้ตรวจเลือกเป็นทหารกองเกิน...กรรมยุคอินเตอร์เน็ตเร็ว- แรงนะ

เป็นกระทู้ที่พูดถึง ข่าวการแถลงข่าวหลักฐานการเป็นทหารกับอดีตนายก

เนื้อหาข่าว

"สุกำพล"แถลงโชว์หลักฐานสำคัญ"สด.9"ตัวจริง! ยัน"อภิสิทธิ์"ไม่ได้ตรวจเลือกเป็นทหารกองเกิน

จากกรณีที่คณะกรรมการสอบสวนกระทรวงกลาโหม ได้ทำหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงถึงสำนักผู้ตรวจการแผ่นดินกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ถูกร้องใช้เอกสารอันเป็นเท็จ เพื่อเข้ารับราชการเป็นอาจารย์ ที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้ารวมทั้งมีเจตนาหลีกเลี่ยงการเกณฑ์ทหาร

ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการปฏิบัติตัวของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ตาม พ.ร.บ. รับราชการทหาร พ.ศ.2497 โดยได้นำหลักฐานตัวจริง ใบสำคัญต่างๆมาแสดง อาทิ แบบแสดงสำคัญ หรือ สด.9 ใบรายชื่อในบัญชีบุคคลพ้นจากฐานะยกเว้นผ่อนผัน หรือแบบ สด.16 และใบรับรองการผ่านการผ่อนผันการเข้าเกณฑ์ทหาร ของสัสดีเขตพระโขนงมา​แสดงต่อสื่อมวลชน ว่านายอภิสิทธิ์ไม่ได้รับการตรวจเลือกเข้าเป็นทหารกองเกินของกองทัพบก และยังเป็นเอกสารที่ไม่อยู่ในระบบราชการ เข้าบรรจุรับราชการเป็นอาจารย์ในโรงเรียนนายร้อย จปร. รวมไปถึงการเข้ารับราชการเป็นอาจารย์ก็มีการลา ถึง 200 วัน ทำงานเพียง 35 วัน

พล.อ.อ.สุกำพล แถลงว่า ส่วนกรณีที่นายศิริโชค โสภา ส.ส.ประชาธิปัตย์ นำเอกสาร สด. 20 มายืนยันว่านายอภิสิทธิ์ได้รับการผ่อนผันจากกองทัพ หนึ่งในคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ ชี้แจ้งว่า เอกสารฉบับดังกล่าวคือบัญชีที่ได้รับการผ่อนผัน จะเกิดขึ้นต่อเมื่อนายอภิสิทธิ์ ได้ผ่อนผันการเกณฑ์ทหาร แต่จากการตรวจสอบไม่มีเอกสารการขอผ่อนผันมายืนยันทั้งนี้เอกสารทั้งหมดที่นำมาแสดงในวันนี้ ทางกองทัพได้ส่งให้กับสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินเพื่อนำไปตรวจสอบตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคมที่ผ่านมา และจะดำเนินการส่งเพิ่มเติมอีกครั้ง

ส่วนจะดำเนินคดีอาญากับนายอภิสิทธิ์ ฐานหลีกเลี่ยงการเกณฑ์ทหารหรือไม่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่าเรื่องดังกล่าวไม่อยู่อำนาจ เพราะเวลาผ่านมาแล้วกว่า 25 ปี ซึ่งคดีน่าจะขาดอายุความไปแล้ว อย่างไรก็ตาม พล.อ.อ.สุกำพล ยืนยันว่าการออกมาชี้แจงเรื่องดังกล่าวไม่มีเจตนาเล่นงานทางการเมือง แต่เป็นการดำเนินการตามขอบข่ายอำนาจของกระทรวงกลาโหม

ที่มา

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1343366201&grpid=00&catid=00

สุกำพล แถลงโชว์หลักฐานสำคัญ



ความเห็นเจ้าของกระทู้

ได้แต่ปลง....
นายได้ตายไปแล้วในทางการเมืองจริงๆ "มาร์ค"

ความเห็นที่ 1

นับว่าเป็นความโชคดีของคนไทยที่มีนายกชื่ออภิสิทธิ์ (อดีต)
ปัจจุบัน อภิสิทธิ์กับเด็กเลี้ยงแกะ ทำไมช่างมีพฤติกรรมเหมือนกันซะเหลือเกิน
ปลง

ความเห็นที่ 2

จะไปเชื่อถืออะไรกับคนที่บอกว่า GT200 มันใช้ได้ คิดดูสิ กลาโหมซื้อมาเครื่องละล้านสี่แสน

ความเห็นที่ 3

ระเบียบการเกณฑ์ทหารใช้ข้อบังคับแบบโบราณ เอกสารสำคัญ
จึงมีต้นขั้วทั้งหมด เอกสารที่อภิสิทธิ์อ้างว่าหายมันมีต้นขั้วใบจริงอีก
กห.จึงสามารถตรวจสอบได้ ทำไม่อภิสิทธิ์ไม่ทำเรื่องคัดลอก สด.9ใบเดิม
ไปขอให้ออกใบใหม่ทำไม

ความเห็นที่ 4

สั่งฆ่าประชาชน 90 กว่าศพ...ยังลอยนวลอยู่ได้อย่างสบายๆ

ปิดสนามบินนานาชาติ เป็นผู้ก่อการร้ายสากล. ก็ยังลอยหน้าลอยตา สร้างเรื่องประท้วงอยู่ได้อย่างสบายๆ

เรื่องแค่นี้ ขี้ประติว ชิลๆ ... ทำอะไรเขาไม่ได้หรอกครับ ไม่เชื่อรอดูสิ

ตามไปดูต่อที่

http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P12432051/P12432051.html

----ราคาค่าตั๋วหนังในเมืองไทย ถ้าเทียบกับเพื่อนบ้านด้วยกัน ถูกหรือแพงครับ ?

เป็นกระทู้ที่พูดถึง ราคาบัตรเข้าชมภาพยนตร์เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ

ENG - price thai movie tickets with asean

ความเห็นเจ้าของกระทู้

แถวๆ สิงคโปร์ มาเลย์ ราคาค่าดูหนัง
พอๆ กับบ้านเราหรือเปล่าครับ ?

ความเห็นที่ 1

ถ้าเทียบเฉพาะค่าตั๋ว ของเราถูก
ถ้าเทียบกับค่าครองชีพด้วยแล้ว ของเราแพง
เวลาเจ้าของโรงหนังพูดถึงเรื่องราคา จะพูดเฉพาะค่าตั๋ว ไม่พูดถึงค่าครองชีพ

ความเห็นที่ 2

สิงคโปร์ตั๋วหนังประมาณ 12 เหรียญ เป็นเงินไทยก็ เกือบๆสามร้อย

ค่าแรงขั้นต่ำสิงคโปร์ เกือบสองพันบาท

มาเลตั๋วหนังมีตั้งแต่ 10กว่าถึง20กว่า ริงกิต ประมาณ 100-200 กว่าบาท

ค่าแรงขั้นต่ำ 450 บาท

ราคาตั๋วที่เมเจอร์ ประมาณ 100กว่า-200กว่าบาท SF ก็พอๆกัน

ค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท

อันนี้เทียบเฉพาะเรื่อง TDKR วันเสาร์-อาทิตย์ ไม่ใช่ IMAX

ปล. ของมาเลเป็นโรงดิจิตอล

ความเห็นที่ 3

ญี่ปุ่นแพงครับ

ที่ว่าพันกว่าเยนนั่นคือลดแล้ว แต่ถ้ายังไม่ลดประมาณ 3000 เยน

จากเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว ราคาตั๋วที่ญี่ปุ่น ทุกวันที่ 1 ของทุกเดือน 1000 เยน ซื้อกับเอเย่นขายตั๋ว หรือสหกรณ์มหาวิทยาลัย 1600-1800 เยน ซื้อหน้าโรง 3200 เยน เทียบกับค่าครองชีพ ก๋วยเตี๋ยวชามนึง 600-800 เยน

ความเห็นที่ 4

เอามาให้ชมไปดูมาเมื่อวานด เรื่องแม่นาก ตั๊กบงกชเล่นพึ่งมาเข้าที่นี่
ราคา10ริงกิต เติมศูนย์เข้าไป เด็กอายุต่ำกว่า18ห้ามเข้า มีการเช็ค บัตร ปชช หน้าโรงหนังด้วย(เฉพาะบางโรงนะคะ)


ส่วนหนังที่เด็กดูได้ ราคาของเด็กกับผู้ใหญ่ ต่างกัน เด็กถูกกว่า1-2ริงกิต สองวันก่อนไปพาลูกดูไอซ์เอจ4มา(3d)ผุ้ใหญ่ 18ริงกิต เด็ก15ริงกิต

ดูด้านบนสุดของตั๋วมุมเล็กๆ เขียนว่า 18แต่ตอนซื้อตั๋ว พนงเค้าก็แจ้งนะคะ

ภาพประกอบ



ตามไปดูต่อที่

http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A12439376/A12439376.html

"เบิร์ด" เกือบเก็บอารมณ์ไม่อยู่ เมื่อนักข่าวสำนักนึงถามว่า "ปีหน้าจะแสดงเป็นเพศที่ 3 หรือ"

เป็นกระทู้ที่พูดถึง นักร้องชายยอดนิยมกับคำถามนักข่าว

ความเห็นเจ้าของกระทู้

"เบิร์ด" เกือบเก็บอารมณ์ไม่อยู่ เมื่อนักข่าวสำนักนึงถามว่า "ปีหน้าจะแสดงเป็นเพศที่ 3 หรือ"

เหตุเกิดที่งานรับรางวัล "เพชรในเพลง" ที่กระทรวงวัฒนธรรมมอบให้กับศิลปินผู้ขับร้องเพลงดีเด่นด้านภาษาไทยเช้าวันนี้ เนื่องในวันภาษาไทยแห่งชาติ 29 กรกฎาคม 2555

ขณะสัมภาษณ์ถึงความรู้สึกของการรับรางวัล มีนักข่าวสำนักนึงถามขึ้นมาเรื่องละครที่จะเล่นปีหน้า ว่าจะเล่นเป็นเพศที่ 3 ทำเอาสีหน้าพี่เบิร์ดเปลี่ยนในทันที และย้อนกลับถามนักข่าวท่านนั้นทันทีว่า "นี่คิดเองถามเองเลยใช่มั้ย" และดึงสติและสีหน้ากลับมาตอบว่าว่ายังไม่มีแพรนอะไร ตอนนี้แค่คิดไว้ว่าหลังจบแบบเบิร์ดเบิร์ด 25 ปี จะมีละครแค่นั้นครับ

คนบันเทิงรับรางวัลวันภาษาไทย



ความเห็นที่ 1

พี่เบิร์ดกระโดดถีบปากนักข่าวที่ถามสักทีก็คงไม่มีใครว่านะ

ความเห็นที่ 2

วันดีๆ แต่นักข่าวไม่รู้กาละเทศะ
ชอบเอาคำถามกากๆมาถามให้อารมณ์เสีย
นักข่าวแบบนี้น่าจะแบนนะ
ถามอะไรไม่มีวิจารณญาณ

ความเห็นที่ 3

สำหรับพี่เบิร์ดอ่ะจะเป็นเพศไหนยังไง ไม่มีใครเค้าสนใจกันแล้ว

พี่แกเลยจุดนั้นมาไกลแล้ว จะเป็นยังไงพี่แกก็เป็นซุปเปอร์สตาร์

ในใจคนไทยอยู่แล้ว แต่มันไม่ใช้เรื่องที่ต้องลุกขี้นมายอมรับ

แล้วนักข่าวจะถามให้มันได้อะไรขึ้นมา

ไม่มีข่าวจะเล่นเหรอ ระดับพี่เบิร์ดเค้าไม่มาหลุดกับเรื่องติ่งๆ แค่นี้หรอก

แต่นักข่าวที่ถามน่ะ อยากรู้ว่าใคร มาจาก นสพ. หรือรายการไหน

มารยาทแย่มากกก มีสื่อแบนดารา น่าจะมีดาราาแบนสื่อบ้างนะ

ความเห็นที่ 4

ฝากถึงนักข่าวคนนั้น >>ไม่ทราบว่าเกิดมาปุ๊บก็เป็นนักข่าวเลยเหรอค่ะ
ไม่เคยได้รับการอบรมสั่งสอนเรื่องมารยาท หรือจรรยาบรรณอะไรประเภทนี้เลยหรืองัย

ตามไปดูต่อที่

http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A12442003/A12442003.html

วันเสาร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

แป้ง อรจิรา โดนโจมตีเพราะสนิทกับครอบครัว"ชินวัตร"

เป็นกระทู้ทีพูดถึง ดารากับคนดังทางการเมือง

ENG - thai star with politics

เนื้อหาข่าว

กลายเป็นเรื่องขึ้นมาทันทีเมื่อจู่ๆ “แป้ง อรจิรา แหลมวิไล” โผล่ไปร่วมงานวันเกิดแฮบปี้เบิร์ดเดย์ “ทักษิณ ชินวัตร” นักโทษหนีคดีถึงฮ่องกง ท่ามกลางความมึนงงของเหล่าแฟนคลับว่า ทำไม แป้งถึงไปปรากฏตัวในงานดังกล่าว เพราะปกติแล้วเหล่าดาราทั้งหลายมักจะไม่เสี่ยงที่จะไปวุ่นวายกับการเมือง แม้แต่จะพูดถึงหรือแสดงความคิดเห็นก็ไม่มีใครอยากปริปาก แต่วันนี้แป้งเอาตัวและหัวใจปรากฏกายข้างทักษิณยืนยิ้มแฉ่งแฮบปี้เบิร์ดเดย์

การโพสต์รูปลงอินสตาแกรมของแป้งขณะไปร่วมงานวันเกิดทักษิณเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา กลายเป็นกระแสร้อนแรงในโลกไซเบอร์ มีการเข้าไปโพสต์แสดงความคิดในอินสตาร์แกรมของแป้งและเว็บไซต์ต่างๆ กันอย่างมากมาย บ้างก็ว่าเป็นเรื่องส่วนตัว แต่บางคนก็ถึงกับรับไม่ได้ที่นางเอกในดวงใจไปชื่นชอบทักษิณ และบางคนถึงขั้นประกาศจะไม่ดูผลงานละครของแป้งอีกต่อไป จนแป้งต้องออกมาโพสต์ในอินสตาร์แกรมว่า “เป็นเพื่อนกันค่ะ รักเพื่อน ไม่แบ่งแยก จบ”

สำหรับแป้ง อรจิรา นั้นเข้าวงการด้วยการผลักดันของเพื่อนสนิทซึ่งเป็นลูกสาวเจ้าของค่ายหนังซีเอ็มฟิล์ม ซึ่งขณะนั้นกำลังคัดเลือกนางเอกที่จะมาเล่นเรื่อง “สุริยะฆาต” และแป้งก็ได้รับเลือกให้เข้ามาแคสหน้ากล้อง โดยในครั้งนั้นแป้งถูกฝ่ายแคสติ้งติติงเรื่องการเดินและการยิ้ม เพราะเดินไม่สวยและยิ้มเหมือนนางยักษ์ ฝ่ายแคสติ้งสั่งให้แป้งไปหัดเดินมาใหม่และให้ลองยิ้มหน้ากระจก เพื่อหามุมที่ตัวเองสวยหวานให้มากที่สุด ซึ่งแป้งก็ได้กลับไปปรับปรุงและได้เป็นนางเอกเรื่องดังกล่าว

โดยในระหว่างที่แสดงเรื่องสุริยะฆาตนั้น แป้งมีข่าวกุ๊กกิ๊กับผู้กำกับเรื่องดังกล่าว มีนิตยสารบางฉบับลงข่าวว่า แป้งได้ตำแหน่งนางเอกเพราะมีความสัมพันธ์กับผู้กำกับ จนเป็นเรื่องเป็นราวฟ้องร้องกันในชั้นศาล แต่ถึงจะฉาวตั้งแต่ก้าวขาเข้ามาในวงการ แต่แป้งก็ไม่หวั่นยังเดินหน้าอาชีพนักแสดงต่อไป กระทั่งแป้งมาคบหากับ “ภูริ หิรัญพฤกษ์” ชื่อเสียงของแป้งก็โด่งดังขึ้นมาเรื่อยๆ เพราะมีข่าวคราวทั้งเรื่องการงาน และความรักให้อัพเดทกันตลอดเวลาไม่ตกกระแส

และจากการที่คบกับภูรินี่แหละ ทำให้แป้งเริ่มเข้ากลุ่มกับเพื่อนในวงสังคมไฮโซของภูริ และได้รู้จักกับ “โอ๊ค พานทองแท้ ชินวัตร” กับ “น้ำนิ่ง กฤตบุญญาลัย” ซึ่งเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันของภูริ และทำให้แป้งมีความสนิทสนมกับ โอ๊ค พานทองแท้ และ “เอม พิณทองทา” เป็นพิเศษ

บ่อยครั้งที่แป้งจะไปปรากฏตัวในงานปาร์ตี้กับกลุ่มของ โอ๊ค พานทองแท้ แต่ไม่ค่อยปรากฏเป็นข่าวเพราะส่วนใหญ่แป้งจะไปงานที่เป็นปาร์ตี้ไพรเวทเท่านั้น อย่างไรก็ตามพักหลังๆ แป้งเริ่มเปิดตัวอย่างชัดเจนว่า สนิทสนมกับ เอม พิณทองทา ล่าสุดก็พึ่งจะควงกันไปงานอีเว้นท์แห่งหนึ่งที่ร้านฟาลาเบลล่า และหลังจบงานก็ปาร์ตี้ดริ้งแดนซ์กันต่ออย่างสนุกสนาน กระทั่งล่าสุดก็ได้ไปร่วมแฮบปี้เบิร์ดเดย์ ทักษิณ พ่อของ เอม พิณทองทา ที่ฮ่องกง แสดงถึงมิตรภาพที่แน่นแฟ้นไม่หวั่นกระแสการเมือง ไม่แคร์ว่าใครจะคิดอย่างไร

ถ้ามองในฐานะมิตรภาพระหว่างเพื่อน แป้งนับว่าใจเด็ด ไม่สนว่าชื่อเสียงของตนเองจะเป็นเช่นไร หากมาปรากฏตัวในงานเลี้ยงวันเกิดของทักษิณพ่อของเพื่อนรัก นักโทษหนีคดีและมีหมายติดตามตัวอีกมากมาย และยังเป็นชนวนที่ทำให้ประเทศไทยแตกแยกจนถึงทุกวันนี้ การไปปรากฏตัวของแป้งแบบนี้ ไม่ว่าจะในฐานะเพื่อนรักของเอม หรือเหตุผลใดๆ ก็ตามที่จะสรรหามา ท่ามกลางคนเสื้อแดงที่ไปร่วมอวยพร ทักษิณ คงปฏิเสธไม่ได้ว่า แป้งไม่ใช่เสื้อแดง

คำถามต่อมาก็คือ แล้วการเป็นเสื้อแดงมันผิดตรงไหน? มันไม่ผิดอะไรหรอก เพราะมันเป็นการชื่นชอบและฝักใฝ่ของแต่ละคน แต่ในเมื่อกล้าที่จะเปิดตัวแล้ว ก็ต้องรับให้ได้กับฟีดแบคที่จะตามมาเช่นกัน

แต่จะว่าไปแล้ว แป้งก็มีพฤติกรรมการแสดงออกที่ไม่แคร์ภาพลักษณ์ ไม่สนกระแสสังคมมาแต่ไหนแต่ไร ตั้งแต่สมัยที่คบหากับ “ฟลุค เกริกพล มัสยวานิช” จนกลายเป็นข่าวมือที่สามที่ทำให้ฟลุคเลิกกับ “โบ ชญาดา ลิ่วเฉลิมวงศ์” ครั้งนั้นแป้งโดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักถึงขั้นร้องห่มร้องไห้ แต่แป้งก็ยังเลือกที่จะคบหากับฟลุคต่อไปชนิดไม่สนปากหอยปากปู ก่อนที่จะเลิกรากันไปในที่สุด

เรื่องชู้สาวคาวขนาดนั้นยังบ่ยั่น นับประสาอะไรกับอีแค่ไปแฮบปี้เบิร์ดเดย์ทูยู ทักษิณ !!

แต่งานนี้คนที่แคร์มากที่สุดเห็นจะเป็นเอ็กแซ็กท์ต้นสังกัด ผู้ผลิตละคร “นางสิงห์สะบัดช่อ” ที่แป้งนำแสดงและกำลังออกอากาศทางช่อง 5 เพราะภาพของแป้งที่ไปร่วมอวยพรทักษิณอาจบาดตาบาดใจใครหลายคน ถึงขั้นแบนละครที่แป้งเล่นก็เป็นได้...ใครจะรู้

ที่มา

http://www.manager.co.th/entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9550000092217

ภาพประกอบ





ความเห็นที่ 1

เรื่องส่วนตัวเค้าหนิ จะคบใครก็เรื่องของเค้า

พวกที่ไปด่าใน IG นี่มารยามทรามมากนะ แต่ละความเห็นไม่มีสมองคิดเลยด่าอย่างเดียว

ความเห็นที่ 2

คือยังไง คนตระกูลนี้ต้องไม่มีคนคบเลย???

เราว่ามันก็เกินไปนะ คือเอาตรงๆนักการเมืองคนไหนไม่โกงมั่ง ถามหน่อย - -?

แล้วจะให้ทำยังไง? ประเทศไทยมันสะสมความคิดนี้มาเป็นสิบๆปี ถ้าอยากจะแก้จริงๆก็ต้องร่วมมือกัน

ซึ่งก็ยาก(ยากมากๆๆๆ) เพราะนี่มันกลายเป็นส่วนนึงของนิสัยคนไทยไปแล้ว (อย่างน้อยก็กว่าครึ่งประเทศ!)

คนบางส่วนที่เค้าได้ผลประโยชน์จากตรงนั้น ก็บอกว่าดี
ส่วนคนไหนเสียผลประโยชน์ ก็บอกว่าไม่ดี แล้วก็มาใส่สีตีเรื่องราวเป่าให้เราฟัง

แล้วพวกเราเป็นใคร? มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกับเขาไหม? (มีสิ มีแต่ส่วนเสียนะ 555)
บอกตรงๆว่าก็ไม่ได้ชอบให้สังคมเป็นแบบนี้ แต่จะให้ทำยังไง! มันก็ต้องอยู่และปรับตัวกันไปใช่ไหมคะ

ปล. คนที่เข้าไปด่าใน IG นี่ ท่าทางจะชิงชังตระกูลนี้มากเลยนะคะ 5555

ความเห็นที่ 3

เนื้อหาข่าวก็เขียนไปทางไม่ดีนะ สงสารแป้ง สงสารเอม

ถ้าสมมุติเราเป็นแป้ง เราก็ไม่เลิกคบอะ

เพื่อนเราดีกับเราไม่ได้ทำร้ายเราทำไมต้องเลิกคบ

คนไทยเดี๋ยวนี้ไปกันใหญ่แล้ว

ความเห็นที่ 4

ที่มา Manager...อืม

เพื่อนก็คือเพื่อน แป้งเขาก็บอกแล้วว่าเขาไม่แบ่งแยก
แต่อีกฝ่ายอยากจะแบ่งแยกเพื่ออะไร เพื่อให้แตกแยกเหรอ
เฮ้อ..Thailand only

ตามไปดูต่อที่

http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A12435551/A12435551.html

วันพฤหัสบดีที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ละครไทยทำไมไม่มีสร้างแรงบันดาลใจแบบญี่ปุ่น เกาหลี

เป็นกระทู้ที่พูดถึง ละครไทยกับละครต่างชาติ

ความเห็นเจ้าของกระทู้

ผมเห็นมาแนวตบตี อิจฉา แก่งแย่ง
เท่าที่ดูซี่รี่ย์ของ ญี่ปุ้น เกาหลี เค้าจะสร้างแรงบันดาลใจให้คนดู มีความมุ่งมั่น ไม่ยอมแพ้อุปสรรค
ทำตามฝันอย่างแรงกล้า แฝงด้วยแนวคิดให้คนได้คิดตาม

แต่ละครไทย รับอย่างเดียว รับแต่สิ่งไม่ดี ตบตีมณีเด้ง

55555

ความเห็นที่ 1

ละครไทย เหมือนเอาคนหล่อ คนสวย มายืน คุยกันให้เราดูอ่ะครับ

รู้สึกแบบนั้นจริงๆนะ

............................................แต่ก็ดู

ความเห็นที่ 2

คิดว่าเป็นเพราะคนไทยไม่อยากยอมรับกับความเป็นจริงครับ เมื่อดูละครก็จะเน้นดูละครที่เพ้อฝัน ตัวละครร่ำรวยเป็นส่วนใหญ่ ตัวร้ายแม้จะร้ายแค่ไหน แต่ออกมาแค่เพื่อให้คนดูสะใจในจุดจบของตัวร้ายเฉย ๆ

ละครที่สะท้อนความจริงเกินไป คนดูเครียด และอึดอัด ส่วนแนวสร้างแรงบันดาลใจ ถ้าเป็นแบบแนวตามฝัน คิดว่าสำหรับคนไทย เราไม่เชื่อกันเรื่องแบบนี้ ดูแล้วไม่อินเท่าไหร่ แต่เวลาเราดูซีรี่ย์ต่างประเทศ ทำไมเราอินกว่า เพราะเราคิดว่ามันเป็นไปได้ในประเทศของเค้า

ความเห็นที่ 3

จริงค่ะ สื่อเป็นสิ่งสำคัญมากในสังคม เยาวชนเห็นตัวอย่างจากสื่อ
ถ้าคนไหนคิดได้ก็ดีไป คนไหนคิดไม่ได้ก็ก่อให้เกิดปัญหาตามหน้าหนังสือพิมพ์ทุกวัน

บทละครสมัยนี้เน้นเรียกเรตติ้ง ตบตี แย่งชิง ใช้อารมณ์ ไม่ใช้ความคิด
พระเอกนางเอกโง่ๆ นางร้ายๆสุดขั้ว ไม่คิดถึงหลักความเป็นจริงเท่าไหร่ ดูไปเพื่อความสะใจ

ละครน้ำดีบางเรื่องก็มี แต่น้อยมาก เรตติ้งก็ไม่ดี เพราะรสนิยมของเราเป็นอย่างนี้มานานแล้วล่ะค่ะ
ถ้าจะปรับเรื่องนี้ คงกลายเป็นปัญหาระดับชาติไปเลย ยาวล่ะค่ะทีนี้

แต่พอสรุปได้ว่า สื่อ ควรจะรับผิดชอบต่อสังคมให้มากกว่านี้ หัดทำละคร
รายการที่สร้างสรรค์ มีเหตุมีผล เชื่อว่าคนไทยไม่น้อยที่ต้องการสิ่งสร้างสรรค์
สิ่งดีๆ มากกว่าละครกรี๊ดๆๆไปวันๆค่ะ

ความเห็นที่ 4

เคยสนใจประเด็นนี้เหมือนกันค่ะ เรื่องละครกับการปลูกฝังความคิดค่านิยมประมาณนี้

เคยอ่านเจอจากที่ไหนนี่แหล่ะประมาณว่าที่ญี่ปุ่นตอนซีรี่ย์เรื่อง Hero ที่ทาคุยะเล่นเป็นอัยการอ่ะค่ะ ปีนั้นมีคนสมัครเป็นอัยการเพิ่มขึ้นเยอะมาก

มันปฏิเสธไม่ได้เลยว่าละครมันก็มีอิมแพคกับผู้ชมพอสมควรเลย

ถ้าเค้าทำดีๆ สอดแทรกพอให้กลมกล่อม ผู้ชมก็น่าจะได้อะไรไปบ้างจากการดูละครมากกว่าดูเอามัน บริหารอารมณ์อย่างเดียว

ตามไปดูต่อที่

http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A12424842/A12424842.html

วันอังคารที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

จับพิรุธรายการ ล่า ท้า ผี

เป็นกระทู้ที่พูดถึงเรื่อง รายการผีในช่องโทรทัศน์กับสถานที่ถ่ายทำ

ความเห็นเจ้าของกระทู้

ขอบคุณข้อมูลจากเว็ปพลังจิตครับ

http://board.palungjit.com/f2/จับพิรุธล่าท้าผี-349205.html

คลิปข้างล่างเป็นคลิปช่วงล่าท้าผีออกอากาศ 30พฤษภาคม 2555

เป็นเรื่องเกี่ยวกับบ้านร้างของคุณตาคุณยายที่ถูกกลุ่มวัยรุ่น
เข้าไปฆ่าตายทั้งคู่แล้วชิงทรัพย์
(ดูตั้งแต่นาทีที่47.40)

สนุกมากๆ คุณตาหลบตรงโน้น คุณยายคลานตรงนี้ มีผีกระตุกเสื้อกันด้วย

คนอวดผี 30 พฤษภาคม 2555 ต้นจนจบ



คลิปข้างล่างเป็นคลิปตอนต่อมาของคลิปข้างบน
ช่วงล่าท้าผีออกอากาศ 6มิถุนายน 2555 ยังคงเป็นเรื่องเกี่ยวกับบ้านร้าง
ของคุณตาคุณยายที่ถูกกลุ่มวัยรุ่นเข้าไปฆ่าตายทั้งคู่แล้วชิงทรัพย์
(ดูตั้งแต่นาทีที่36.30)

คนอวดผี 6 มิถุนายน 2555 ต้นจนจบ



คลิปต่อมาเป็นคลิปช่วงล่าท้าผีออกอากาศ 5ตุลาคม 2554
เป็นเรื่องเกี่ยวกับบ้านร้างของสามีภรรยา โดยสามีฆ่ารัดคอภรรยาแล้วตัวเองก็ฆ่าตัวตายตาม
(ดูตั้งแต่นาทีที่35.19)

คนอวดผี 05 ตุลาคม 2554 [051054] End



มีข้อน่าสงสัยคือ มีหลายตอนมากที่สถานที่ต่างๆคล้ายคลึงกันอย่างน่าประหลาดใจ

ภาพจากคลิปช่วงล่าท้าผีออกอากาศ 30พฤษภาคม 2555 เป็นเรื่องเกี่ยวกับบ้านร้างของคุณตาคุณยายที่ถูกกลุ่มวัยรุ่นเข้าไปฆ่าตายทั้งคู่แล้วชิงทรัพย์ ช่วงอาจารย์ชื่อดังสำรวจบ้าน(จากคลิปข้อ1นาทีที่50.08)

ภาพประกอบ



ภาพจากคลิปช่วงล่าท้าผีออกอากาศ 5ตุลาคม 2554 เป็นเรื่องเกี่ยวกับบ้านร้างของสามีภรรยา โดยสามีฆ่ารัดคอภรรยาแล้วตัวเองก็ฆ่าตัวตายตาม เป็นตอนผู้ปฏิบัติภารกิจกำลังเดินเข้าบ้าน(จากคลิปข้อ1นาทีที่57.59)



ภาพบน ภาพจากคลิปช่วงล่าท้าผีออกอากาศ 30พฤษภาคม 2555 เป็นเรื่องเกี่ยวกับบ้านร้างของคุณตาคุณยายที่ถูกกลุ่มวัยรุ่นเข้าไปฆ่าตายทั้งคู่แล้วชิงทรัพย์ (สังเกตวงกลมสีแดงและลักษณะขอบปูน)

ภาพล่าง ภาพจากคลิปช่วงล่าท้าผีออกอากาศ 5ตุลาคม 2554 เป็นเรื่องเกี่ยวกับบ้านร้างของสามีภรรยา โดยสามีฆ่ารัดคอภรรยาแล้วตัวเองก็ฆ่าตัวตายตาม(สังเกตวงกลมสีแดงและลักษณะขอบปูน)



ภาพบน ภาพจากคลิปช่วงล่าท้าผีออกอากาศ 30พฤษภาคม 2555 เป็นเรื่องเกี่ยวกับบ้านร้างของคุณตาคุณยายที่ถูกกลุ่มวัยรุ่นเข้าไปฆ่าตายทั้งคู่แล้วชิงทรัพย์ (ดูตรงกรอบสีแดง รอยโบกปูนใหม่)

ภาพล่าง ภาพจากคลิปช่วงล่าท้าผีออกอากาศ 5ตุลาคม 2554 เป็นเรื่องเกี่ยวกับบ้านร้างของสามีภรรยา โดยสามีฆ่ารัดคอภรรยาแล้วตัวเองก็ฆ่าตัวตายตาม (ดูตรงกรอบสีแดง รอยโบกปูนใหม่)



ความเห็นที่ 1

ใช้สถานที่เดิม แต่เล่าเรื่องใหม่ใช่มั้ยนี่ - -"

ความเห็นที่ 2

แค่คนธรรมดาไม่เท่าไหร่ อาจจะลืมกันได้
แต่พวกมีญาณทิพย์นี่สิ หมายความว่ายังไง

ความเห็นที่ 3

อ่าว อับปัญญา มาแถ เอ๊ยชี้แจงหน่อยเร็ว
จริงๆแล้วค่ายนี้มันหมดราคาแล้วนี่ครับ เวิร์คเตี้ยม....

ความเห็นที่ 4

จะบอกว่าเคยงงๆ กึ่งๆสงสัยมานานแล้ว
ความที่ว่า ทำไมฉากมันคุ้นๆ แต่ตอนนั้นคิดว่า
รายการเขาถ่ายหลายคู่ แต่ไม่นึกว่าจะขนาดนี้

ตามไปดูต่อที่

http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A12382156/A12382156.html

วันจันทร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

( T-wind) Tina&Aom แฟนมีทติ้ง @ ปักกิ่ง 13-14 กรกฎาคม 2555 <<<ยังรักกันเหมือนเดิม

เป็นกระทู้ที่พูดถึง ดาราไทยที่ไปหาแฟนคลับที่ประเทศจีน

ENG - 2 thai star aom and tina meeting fanclub in china

ความเห็นเจ้าของกระทู้

ติ๊นา - ศุภนาฎ และ ออม สุชา 2 นักแสดงจากภาพยนตร์ไทยเรื่อง Yes or no จัดแฟนมีทติ้งที่มหานครปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ที่เมืองนี้พร้อมกันเป็นครั้งแรก หลังจากแฟนคลับที่ปักกิ่งรอพบปะทั้งคู่มาตลอดทั้ง 2 ปี งานนี้สมหวังทั้งแฟนคลับชาวจีน และประทับใจทั้ง 2 นักแสดงชาวไทย

เครดิตรูป weibo baidu tina aom


ทริปแฟนมีทติ้งปักกิ่ง 13-14 กรกฎาคม 2555

ภาพประกอบ



การเดินทางครั้งนี้ Aom Tina บินไปจีนตั้งแต่คืนวันที่ 12 กรกฎาคม ถึงปักกิ่งเช้าวันที่ 13 ประมาณ 7 โมงเช้าแต่แฟนคลับชาวจีนเมืองปักกิ่งก็มารอต้อนรับอย่างอบอุ่น (รอมา 2 ปีกว่าจะได้เจอทั้งคู่พร้อมๆกัน ตัวเป็นๆ)



ไปถึงทำงานกันเลยเพื่อไม่ให้เสียเวลา สื่อออนไลน์ของจีนเว็บ toudou สัมภาษณ์



บรรยากาศการสัมภาษณ์จาก MTV และสื่อจีนอื่นๆ



ร้องเพลงคู่กัดในงานอีเวนต์

TinaAom คู่กัด @ปักกิ่ง 13-07-12



หลังจากเสร็จงานแฟนมีทติ้งออมเดินทางกลับประเทศไทยทันที ส่วนติ๊นาอยู่เที่ยวปักกิ่งต่ออีก 1 วัน

น้องส่งพี่กลับบ้าน



ความเห็นที่ 1

ขอบคุณที่มาแบ่งปันนะคะ่

ออม ติน่า น่ารักทั้งคู่เลยอ่ะค่ะ

ความเห็นที่ 2

พิธีกรให้ Tina เลือกว่าชอบสาวคนไหน ? ...



ความเห็นที่ 3

งานมี้ตติ้งที่ปักกิ่งครั้งนี้ ทางผู้จัดได้ทำเสื้อโดยเฉพาะขึ้นมาตามที่เห็นในภาพ
มี 2 แบบ สีขาว กับ สีดำ และให้แฟนคลับที่สนใจสั่งซื้อ จัดทำทั้งหมด 200 ตัว
เข้าใจว่าทางทีมงานผู้จัดคงมีมอบให้กับ Tina Aom เป็นที่ระลึกด้วย ....

งานมี้ตติ้งที่เซี่ยงไฮ้ เมื่อเดือนที่แล้ว เขาก็มีจัดทำเสื้อสำหรับงานนั้นโดยเฉพาะเหมือนกัน.



ความเห็นที่ 4

ส่วน Tina มีโปรแกรมไปโชว์ตัวงานมอเตอร์โชว์ วันที่ 16 ที่ไห่หนาน(เกาะไหหลำ)ต่อ ....

15 ก.ค. แฟนคลับมาส่งที่สนามบินปักกิ่ง ปักกิ่ง - ไห่หนาน 12.30-16.20 น.



ตามไปดูต่อที่

http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A12377447/A12377447.html

วันเสาร์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

เมื่อดาราเลิกกัน ตอน เรื่องที่มองข้าม

เป็นกระทู้ที่พูดถึง ข่าวดาราที่เลิกกันกับความคิดเห็นของคน

ความเห็นเจ้าของกระทู้

เมื่อดาราเลิกกัน ตอน เรื่องที่มองข้าม

ภาพประกอบ



ความเห็นที่ 1

จขกท. ยกตัวอย่างมาให้ดูขนาดนี้แล้ว
คนในห้องเฉลิมไทย น้อยคนค่ะที่จะเข้าใจ
ส่วนมาก.......แต่ก็มิได้นำพา.....5555

ความเห็นที่ 2

ทุกคนในนี้ก็ชอบเสรือกเรื่องชาวบ้านกันทั้งนั้น

ความเห็นที่ 3

ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ดีก็เลิกกันสิคะ
แต่อย่าเอามาเป็นข้ออ้างในการนอกใจหรือไปมีคนอื่น
เลิกเพราะอีกฝ่ายไม่ดี ไม่มีใครว่า
แต่ไม่ใช่เพราะมีที่ไปใหม่จึงไป อันนี้อย่าโทษอีกฝ่ายไม่ดี

ความเห็นที่ 4

ดารา = บุคคลสาธารณะไปโดยปริยาย เพราะคุณทำงานจากการปรากฏตัวให้ผู้คนเห็น
ดังนั้นเวลา เกิดเหตุการณ์อะไร ทั้งแง่ดี แง่ไม่ดี ทุกการกระทำ ทุกการเคลื่อนไหว

เลยตกอยู่ใต้สายตาและคำวิจารณ์จากสาธารณชน เราคิดว่า
นั่นคือสิ่งที่ดาราต้องจ่ายเพื่อแลกกับการทำงานวงการบันเทิง

มันเป็นเรื่องธรรมดาที่ ดาราจะถูกเสรือก ถูกตัดสิน ถูกชม ถูกด่า ค่ะ

ตามไปดูต่อที่

http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A12368827/A12368827.html

วันพฤหัสบดีที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ทำไมสื่อต่างๆชอบนำเสนอความพอเพียงในภาพชนบท ไม่ต้องใช้โทรศัพท์ ไม่ต้องใช้น้ำไฟ ต้องเป็นชาวไร่ ชาวนาตลอดเลย

เป็นกระทู้ที่พูดถึง ชีวิตชนบทในสื่อต่างๆ

ความเห็นเจ้าของกระทู้

เวลาดูละคร รายการ หรืออ่านสื่อต่างๆ เวลาจะนำเสนอเกี่ยวกับความพอเพียงก็จะนำเสนอเป็นภาพเกี่ยวกับชนบท การไม่ซื้อของ การไม่ต้องใช้โทรศัพท์ ไม่ต้องใช้น้ำ ใช้ไฟ ต้องเป็นชาวไร่ ชาวนา ก็เลยสงสัยนะค่ะว่าทำไมเราต้องนำเสนอความพอเพียงในรูปเเบบนี้อยู่ตลอดอะคะ จนมีคนมาประชดประชนว่าความพอเพียงก็คือบ้านนอก ต้องทำไร่ไถ่นา คือความยากจน อะไรเเบบนี้

ซึ่งเท่าที่เคยอ่านพอเพียงก็คือการใช้ให้พอกับฐานะตนเอง เเละการจัดสรรให้พอใช้ พอขาย เเต่คนเราก็ฐานนะไม่เหมือนกันนี่คะ ทำไมสื่อต้องนำเสนอในเเบบไม่ต้องซื้ออะไรนะ ต้องอยู่บ้านหลังเล็กๆ อะไรเเบบนี้ตลอดเวลา คนมีเงินต้องไปพอเพียงในเเบบคนไม่มีเงินก็ใช่ที บางคนก็เอาภาพตามสื่อไปประชดประชันคนที่ซื้อของเเพงๆว่าไม่พอเพียง ทั้งที่ฐานนะต่างกัน

เเล้วอีกประเด็นก็คือเรื่องอาชีพ ทำไมต้องไปทำไร่ไถ่นาตลอดเลย เมืองไทยไม่ได้มีอาชีพนี้อาชีพเดียวนะคะ ไม่เคยเห็นสื่อเอามาดัดเเปลงต่อยอดกันเลย ในหลวงท่านยกตัวอย่างอาชีพเกษตร ก็เอามาเเต่อาชีพนี้กัน เเทบไม่มีใครเลยที่เอาไปคิดต่อเเล้วนำเสนอว่าเเล้วอาชีพหมอ ครู ตำรวจ พนักงานต่างๆ เเม่ค้า จะพอเพียงอย่างไง

ความเห็นที่ 1

ผมก็คิดว่าเป็นการนำเสนอที่ดูไม่ค่อยฉลาดเลยครับ

การพอเพียง ไม่เกี่ยวอะไรกับการทำไร่ทำนา อยู่บ้านนอก ตากแดดตากลมเลย
แต่ปัจจุบัน เหมือนกับจะกลายเป็นภาพจำ ของคำว่า พอเพียง ไปซะงั้นแล้ว

คนกรุงคนเมือง หรือคนที่มีฐานะหน่อยก็สามารถใช้ชีวิตพอเพียงในแบบของตัวเองได้ทั้งนั้น

ความเห็นที่ 2

มันโรแมนติกไง ทุ่งนา ท้องฟ้า กระท่อมปลายนา

ชนชั้นกลวงมันชอบ ถึงมี อัมพวา ตลาดสามชุก ฯลฯ
ไปเที่ยวสักวันหลอกตัวเองว่า พอเพียงๆๆ
แล้วก็กลับมาจิ้มipadแชร์รูป ในสตาร์บั้ก

ความเห็นที่ 3

มันคือนิยายหลอกเด็ก หลอกคนคิด หลอกคนทำ หลอกคนนำเสนอ หลอกคนดู
เหมือนจะบ่งบอกว่าจนก็อยู่อย่างจน มีความสุขอย่างคนจนไปนะ
ส่วนคนรวยๆอย่างพวกฉันจะเดินห้างนั่งรถหรูเอง

ความเห็นที่ 4

อื่มเราก็คิดแบบเจ้าของกระทู้ ละครชอบยกเอาข้อนี้มาทำ เช่น ชีวิตจอมปลอมในกรุงเทพ
ต้องไปอยู่ที่ชนบท เราว่ามันเป็นการมองตื้นๆ คนในเมืองก็มีวิถีชีวิตแบบหนึ่ง

คนต่างจังหวัดก็มีชีวิตอีกแบบหนึ่ง ความพอเพียงไม่ได้หมายความว่า
ไม่ใช้อะไรที่เป็นเทคโลโลยี แต่ใช้เงินใช้ชีวิตที่พอเหมาะกับฐานะ ไม่ใช้อะไรเกินตัว

ตามไปดูต่อที่

http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A12364541/A12364541.html

วันพุธที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ละครไทยที่มีฉากพระเอกใช้กำลังปล้ำนางเอกในตอนต้นเเละนางเอกก็ไปยอมในตอนท้าย เรียกว่าข่มขื่นได้ไหมคะ

เป็นกระทู้ที่พูดถึง ฉากในละครไทยกับในชีวิตจริง

ความเห็นเจ้าของกระทู้

เห็นละครไทยหลายเรื่องที่มีฉากพระเอกใช้กำลังปล้ำนางเอกในตอนต้น เเละนางเอกก็ไปยอมในตอนท้ายจะเพราะสู้ไม่ไหว หรือเคลิ้ม หรือเพราะรักอยู่เเล้วอย่างที่หลายคนมักบอกเเบบนั้น เเล้วสงสัยนะค่ะว่าเเบบนี้เรียกว่าเป็นการข่มขื่นได้ไหม เพราะพระเอกใช้กำลังในตอนต้น เเล้วนางเอกก็ไม่ยอมในตอนต้นนิ

เเล้วสมมุติว่ารักกันจริงต่างฝ่ายก็รู้เเล้วมาปล้ำกัน ใช้กำลังกันในชิวิตจริงสาวๆจะรู้สึกอย่างไงกันคะ เพราะเวลามีละครเเบบนี้หลายคนก็จะชอบพูดทำเพราะรักบ้างละ บอกชอบใจกันบ้างละ เหมือนสนับสนุนให้ใช้กำลังกันเลย

ความเห็นที่ 1

ถ้าเริ่มต้นด้วยกำลัง เราโกรธ ค่ะ
อาจถึงขั้น ไม่มองหน้ากันเลยตลอดชีวิต

มันเท่ากับ บังคับ อะค่ะ

ความเห็นที่ 2

คนรู้จักของเราคนหนึ่ง

ถูกแฟนตัวเองข่มขืน

เธอเสียใจมาก เลิกคบกับชายคนนั้น แล้วย้ายที่อยู่ไปเลย

ความเห็นที่ 3

ในแง่กฎหมาย คงต้องไปพิสูจน์กัน
ว่าอะไรคือข่มขืน อะไรคือสมยอม

ในแง่การสื่อสาร
นี่คือการข่มขืนครับ
และยังเป็นการสร้างวัฒนธรรมผิดๆ อีกต่างหาก

๑. ไม่เป็นไรหรอก มันเป็นพระเอก มันเป็นคนดี เดี๋ยวมันก็รับผิดชอบ
ซึ่งในชีวิตจริง คุณไม่รู้หรอกว่าใครเป็นคนดี
ไม่มีพระเอก ฟันทิ้งๆ บ้างละ ละครไทย

๒. ยอมๆไปเหอะ เดี๋ยวก็รักกัน หรือ รักกัน ก็ยอมๆกันเถอะ ชาวบ้านเห็นดีเห็นงามด้วย
555 ก็ไม่รู้ชาวบ้าน จะมายุ่งอะไรด้วย
ลองเป็นลูกสาวที่บ้านคุณดูดิ ดูว่าจะยังเห็นดี เห็นงาม แอบลุ้น อยู่หรือเปล่า

๓. ขอย้ำว่า ในละครคุณยังมั่วๆได้ว่า ใครเป็นพระเอก ใครเป็นตัวร้าย
แต่ในชีวิตจริงคุณไม่รู้หรอก
จะมามั่วว่า รักใคร คนนั้นคือพระเอก คงไม่ได้(และไม่ควร)

ฉะนั้นอยากจะขอร้องผู้จัดละครจริงๆเลย
ว่าลดๆ บทพวกนี้ลงบ้าง
เพราะมันไม่ได้สร้างสรรค์ หรือ จรรโลงสังคมเลย
มีแต่จะทำให้เสื่อมทรามลง
เท่านั้น

ความเห็นที่ 4

ความเห็นส่วนตัวเชื่อว่าเป็นการข่มขืนครับ

และความคิดส่วนตัวในฐานะผู้ชายคนหนึ่ง ถ้าผู้หญิงร้องกรี๊ดๆดิ้นรนมากๆ ผมไม่มีอารมณ์ที่จะทำอะไรต่อแน่นอน และคิดว่าผู้ชายที่ยังสามารถ.. ผมว่าคงต้องมีอาการทางจิตจำพวกซาดิสซม์ซ่อนอยู่บ้างไม่มากก็น้อย แบบเห็นอีกฝ่ายทรมานแล้วยิ่งตื่นเต้น

ถ้าฝ่ายหญิงยอมแต่งงานด้วย สงสัยคงต้องเจออะไรโหดๆในชีวิตประจำวันอีกเยอะ แต่ฝ่ายหญิงจะแสดงออกมาให้คนภายนอกรับรู้หรือเปล่าเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งถ้าเป็นสมัยก่อนที่การฉุดไปปล้ำเป็นที่ยอมรับได้ ฝ่ายหญิงคงไม่คิดจะแสดงออกอะไร นอกจากยอมๆไปจนกว่าจะแก่ตายกันไปข้างหนึ่ง

ตามไปดูต่อที่

http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A12359354/A12359354.html

วันอังคารที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

แต่งตัวแบบนี้เข้าวัด จิตสำนึกของดาราสาวช่อง 7 สองคนนี้ชำรุดหรือเปล่านะ

เป็นกระทู้ที่พูดถึง การแต่งการของดาราสาวกับความเหมาะสม

ENG - dress of thai star with temple

ความเห็นเจ้าของกระทู้

เสื้อที่ใส่น่ะโอเคเลยนะ
แต่กางเกงนี่สิ! จะตึงเปรี้ยะ!
รัดติ้วไปไหน แถมยังเป็นผ้ามันวาวอีก
โอ้โห ... อุบาสก อุบาสิกกา เณร พระ
คงจิตกระเจิงแตกซ่านกันหมดละ
ขอติเพื่อก่อละกัน เข้าใจว่าเป็นแฟชั่นกำลังฮิต
แต่ช่วยดูกาละเทศะหน่อยเหอะ

ปล.กำลังพูดถึงรายการ "ที่นี่หมอชิต" อยู่นะ

ความเห็นที่ 1

ดาราแต่งตัวกันแบบนี้จนนึกว่าธรรมดาไปแล้ว ถ้าใส่แบบนี้ต้องมีผ้าคลุมไหล่ไปด้วยค่ะ เวลานั่งต้องเอาผ้ามาคลุมไว้ เพราะกางเกงฟิตเห็นรุปร่าง และเห็นสามเหลี่ยมทองคำด้วย จริงๆแล้วเรื่องแบบนี้มันง่ายมากเลยที่จะแต่งตัว แต่อย่างว่าดาราส่วนใหญ่กลัวไม่สวยนั่นแหละ พวกดาราบางทีเสพติดความสวยงามจนลืมเรื่องกาละเทศะและกาลอันควรไปกันเยอะ

ความเห็นที่ 2

พอๆกับแพทตอนใส่ไปงานรับปริญญาแต้ว

...........

อันนี้มาจากเฟสของที่นี่หมอชิต

ภาพประกอบ



ความเห็นที่ 3

กางเกง disco pants ตามสมัยนิยม
ไม่โทษแต่นางงาม โทษรายการด้วย ไม่มีใครซักคนคิดได้เลยหรือ

ความเห็นที่ 4

ส่วนใหญ่ ถ้าไปหา ไปเยี่ยมตามบ้าน หรือไปนอกสถานที่ ดาราจัดเองเสียส่วนใหญ่ ยกเว้นบางทริปที่ชวนเที่ยวไปช่วงงานเทศกาลบางทีรายการจะจัดให้เช่น ชวนดาราไปช่วงสงกรานต์ / แห่เทียนพรรษาที่อุบลฯ ฯลฯ เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ

อย่างทริปแพนเค้กไปปั่นจักรยาน ปีนผากับเป้ ก็เตรียมกันไปเอง

เสียตรงที่รายการปล่อยผ่านได้ไง ทำไมไม่กล้าเตือน แต่ถ้ารายการจัดให้ต้องประณามรายการคูณสอง และถ้ารายการจัดให้นางๆ น่าจะคิดเป็นนะ ไม่รู้สึกอะไรในใจบ้างเหรอ ใส่แนบเนื้อเน้นสัดส่วนอย่างนั้นเข้าวัดนะ

สำหรับท่อนบนของแก้ม เราให้ผ่านนะ แม้ว่าควรสุภาพกว่านี้ เมื่อก่อนเขากระโจมอก คอกระเช้าก็เข้าวัดได้ แต่ถ้าเป็นสายเดี๋ยวอันนั้นไม่ไหว (เพราะเราว่ามันรัดแนบเนื้อ เน้นท่อนบน ยิ่งกว่ากระโจมอก สไบเฉียงสมัยโบราณ )

ที่สำคัญชุดอย่างนี้ ไปเดินแถวต่างจังหวัด แม้ไม่ใช่ดารา คนคงมองจ้องกันใหญ่ ไม่เขินบ้างเหรอ ส่วนตัวแม้เดินตามห้าง เดินเที่ยวตอนกลางวันยังไม่เหมาะเลย เต็มที่น่าจะใส่ตามงานปาร์ตี้ตอนกลางคืน หรืองานที่จัดเฉพาะที่ พวกอีเว้นท์ งานเปิดตัวสินค้า ฯลฯ จบงานก็เปลี่ยน หรือถ้าจะใส่ควรใส่กับเสื้อตัวยาวปิดคร่อมถึงสะโพก อึ้งกับแพทมาทีหนึ่งละ ไม่ถึงกับแอนตี้ แต่ควรรู้จักถึงความเหมาะสมของที่ๆ ที่ไป

ภาพประกอบ



ตามไปดูต่อที่

http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A12347576/A12347576.html