วันเสาร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2555

สตรีจีนสวนรัฐลิดรอนสิทธิฯแต่งกาย ถูกขอสวมเสื้อมิดชิดในรถไฟใต้ดิน ป้องกันถูกล่วงละเมิดฯ [ย้ายจาก : แฟชั่น]

เป็นกระทู้ที่พูดถึง การแต่งกายของสาวชาวจีนกับการขึ้นรถไฟใต้ดิน

ENG - The dress of Chinese women in the metro

เนื้อหาข่าว

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ว่า กลุ่มผู้หญิงเมืองเซี่ยงไฮ้จำนวนหนึ่ง ออกโรงแสดงการประท้วงไม่พอใจต่อทางการกรุงเซี่ยงไฮ้ที่เรียกร้องให้พวกเธอแต่งกายอย่างมิดชิด เพื่อป้องกันการถูกล่วงละเมิดทางเพศในรถไฟใต้ดิน โดยสตรีกลุ่มนี้ได้ถือป้ายประท้วงมีข้อความว่า เราอาจจะเย้ายวนแต่คุณก็ไม่มีสิทธิมาลวนลาม เราอยากจะสวยเท่ห์ และไม่ต้องการมือสกปรกของพวกผู้ชาย ขณะที่สตรีรายหนึ่งกล่าวว่า เธอเชื่อว่า ผู้หญิงโดยทั่วไปมีเสรีภาพที่จะเลือกได้ว่า ตัวเองจะแต่งกายอย่างไร และรัฐไม่ควรมีข้ออ้างสำหรับการลวนลามหรือล่วงละเมิดทางเพศต่อผู้หญิง

รายงานระบุว่า การประท้วงดังกล่าวเกิดขึ้นหลังทางการเซี่ยงไฮ้ได้โพสต์ข้อความผ่านอินเตอร์เน็ท แนะนำให้ผู้โดยสารหญิงแต่งกายอย่างรัดกุม โดยอย่าเชื่อมั่นในตัวเองสูงนักเพื่อหลีกเลี่ยงพวกวิตถาร และยังมีขึ้นหลังจากเกิดกรณีการล่วงละเมิดทางเพศระบาดมากในรถไฟใต้ดินเมืองเซี่ยงไฮ้ รวมทั้งกรณีมีการโพสต์ภาพผู้หญิงรายหนึ่งแต่งชุดซีทรูยืนคอยรถไฟใต้ดินด้วย

โดยก่อนหน้านี้ ตำรวจได้ประกาศกวาดล้างการลวนลามทางเพศในรถไฟใต้ดิน และจับกุมชายหื่น 3 รายฐานลวนลามทางเพศต่อผู้โดยสารหญิงในช่วงเวลาหนึ่งสัปดาห์ โดยพฤติกรรมดังกล่าวจะเกิดขึ้นบ่อยในช่วงชม.เร่งด่วนของวันอังคารที่แล้ว หลังจากชายรายหนึ่งโชว์อวัยวะเพศของเขาต่อผู้โดยสารหญิงรายหนึ่งในรถไฟที่แน่นไปด้วยผู้โดยสาร

ที่มา

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1340781710&grpid=&catid=06&subcatid=0600

ภาพประกอบ



ความเห็นที่ 1

เราจะแต่งตัวยังไงมันก็เรื่องของเรา ... อย่าเอามาเป็นข้ออ้างในการทำชั่วของคุณ

ใจคุณสกปรกคิดชั่วอยู่แล้ว คุณจึงลงมือกระทำตามปรารถนาต่ำๆของตน

คนดีๆ ที่ไม่มีใจสกปรก ต่อให้เค้าเห็นผู้หญิงแต่งตัวยั่ว เค้าก็เบือนหน้าหนี

.......................

สาวๆอยากสวยก็ควรแต่งตัวแต่พองาม

รู้จักระมัดระวังตัวเอง

รู้อยู่แก่ใจว่าสังคมสมัยนี้อันตรายรอบด้าน

หากไม่ลับเขี้ยวเล็บตนเองให้ดี ก็อย่าทำตัวเองให้ตกเป็นเป้าของคนชั่วได้ง่ายๆ

ความเห็นที่ 2

มันก็จริงอยู่ ควรเซฟตัวเองด้วย

แต่คนมันจะจิตอ่ะ มิดชิดแค่ไหน มันก็ทำ


เอ๊ะ ! แต่นั่น รัฐเค้าแค่โพสต์ข้อความแนะนำเฉย ๆ ไม่ใช่หรอ -*-

ความเห็นที่ 3

ไอ้เหตุผลที่พวกเธอเอามาอ้าง มันใช้ได้กับคนปกติ
คนโรคจิตจะเข้าใจมั้ยล่ะ ว่าถึงจะโป๊ล่อตาน่าจับแค่ไหน
มันก็ไม่มีสิทธิ์ไปแตะ

อย่างมากตำรวจก็ได้แต่จับเมื่อเกิดเหตุแล้ว
แต่จะป้องกันยังไงอะ มีแค่มือมันก็ก่อเรื่องได้แล้วเนี่ย
อะไรทำได้ง่ายๆ ก็ทำไปเหอะ แค่ไม่ได้โชว์เนื้อหนังบ้าง คงไม่ถึงตายมั้ง --

ความเห็นที่ 4

รู้ไหมว่าผู้ชายหลายๆคน ถึงแม้ไม่ได้เป็นโรคจิต แต่เวลาเห้นผู้หญิงแต่งตัวโป๊มากๆ
จะคิดไปว่าผู้หญิงโชว์เพราะชอบแนวนี้ ในใจแ้ล้วอยาก...
เคยเห็นผู้หญิงใส่กระโปรงสั้น ไม่ได้สั้นมาจนน่าเกลียด แล้วโดนผู้ชายมองแบบหื่นๆ
เธอเลยว่า ว่ามองขาฉันทำไม ผู้ชายสวนเลยว่า ใส่มาให้มองไม่ใช่เหรอ ที่ใส่แบบนี้เพราะอยากโดนมองเอง แล้วจะมาบ่นหาอะไร

เราได้ยินกับหู อึ้งไปเลย เหอ เหอ

ตามไปดูต่อที่

http://www.pantip.com/cafe/woman/topic/Q12296467/Q12296467.html

วันพฤหัสบดีที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2555

(รักนี้หัวใจมีครีบ) เสน่ห์ชื่อของตัวละคร

เป็นกระทู้ที่พูดถึง ละครตอนเย็นเรื่องหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับทะเล

ENG - character name in thai drama

ความเห็นเจ้าของกระทู้

ส่วนตัวชื่นชอบละครเรื่องนี้มากแม้ผ่านมาแค่ 2วันเท่านั้น จุดหนึ่งที่ชอบคือ ชื่อของตัวละคร ที่ผู้กำกับหรือผู้เขียนบทประพันธ์จงใจให้มีชื่อเกี่ยวข้องกับน้ำหรือท้องทะเล มันเป็นเสน่ห์มาก ผมยังไม่เห็นมีละครเรื่องไหนทำแบบนี้ เมื่อสมัยเด็กๆเคยไปดูลิเก เค้าจะเอาชื่อตัวละครเป็นหมวดเพื่อให้จดจำได้ง่าย เรื่องนี้ชื่อตัวละครก็จะเป็นหมวด ร. หมด เช่น รัตนา รื่นฤดี ราตรี ถ้าเล่นอีกเรื่องก็จะใช้ชื่อหมวด ก. เช่น การเกตุ กรวลัย แก้วกล้า เป็นต้น...

ชลนที = สายน้ำ
มีนานุช = มีนาคม ราศรีมีน ลัญลักษณ์ปลา นุช คือผู้หญิง หญิงที่เป็นปลา
มัสยา = ปลา
กุ้งเผา = อาหารทะเลชนิดหนึ่ง
ปูม้า = ปูทะเลชนิดหนึ่ง
ศ.ดร.ธารา = น้ำ
ดร.นาวิน = หรือนาวี น้ำหรือความเย็น
น้าหมึก = สัตว์ทะเลชนิดหนึ่ง
เจ๊กั้ง = สัตว์ทะเลชนิดหนึ่ง
นีโม่ = ชื่อของปลาการ์ตูนในภาพยนต์เรื่อง NEMO ปลาเล็กหัวใจโต๊โต
อุทก = ภัยพิบัติจากน้ำ
วิฬาร์ = แมว ชื่อนี้ซึ่งอาจจะไม่เกี่ยวข้องกับน้ำเท่าไรแต่เข้าใจเจตนาของผู้ตั้งชื่อ คือ แมวไม่ถูกกับปลาเป็นศัตรูของปลา จึงตั้งชื่อตัวอิจฉาเรื่องนี้เป็น แมว

ภาพประกอบ



อันนี้แถม

รักนี้...หัวใจมีครีบ Raknee Huajai MeeKreeb - Ep.1 [1/6]



เปิดกองวิก 3 : รักนี้หัวใจมีครีบ [1/2]



รายละเอียดเพิ่มเติม

http://www.thaitv3.com/ละคร/181/รักนี้หัวใจมีครีบ.html

ความเห็นที่ 1

ที่ร้องเพลงประกอบที่ใช้เป็นเพลงไตเติ้ลชื่อ "พิจิกา"

ความเห็นที่ 2

หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมเงือกถึงต้องสื่อสารกันด้วยกลอนในละครเรื่องนี้
ถ้าพูดถึงเงือกทุกคนจะต้องนึกถึงนางเงือกที่เป็นตัวละครในวรรณคดีเรื่องพระอภ้ยมณี
ของสุนทรภู่

ผู้กำกับหรือผู้เขียนบทก็เลยต้องใช้เป็นภาษากลอนเพิ่มความน่ารักเข้าไป
แล้วก็เปิดฉายวันแรกเลือกตรงกันวันสุนทรภู่พอดีเลย

ความเห็นที่ 3

ดูตอนแรก เราก็สะดุดกับชื่อของตัวละครก่อนเลย

ชอบอ่ะ ชื่อสอดคล้องกันไปหมด

แต่พอเห็นชื่อวิฬาร์ ก็เอะใจนิดนึง...เอ๊ะ!! ทำไม่ไม่เหมือนเพื่อนเลยนิ

คิดไปคิดมา อ๋อ..วิฬาร์แปลว่าแมวนี่นา (นึกออกเพราะว่าเช้า เสาร์-อาทิตย์ จะดูไชยเชษฐ์ มีแมวชื่อวิฬาร์)

เลยคิดได้ว่า เออ แมวไม่ถูกกับปลา เลยถึงบางอ้อ..

เราชอบมากนะ เรื่องชื่อของตัวละครเนี่ย เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งเลยทีเดียว

ความเห็นที่ 4

ตัวร้ายฝ่ายชายชื่อก็มีความหมายเข้ากับคาแรคเตอร์นะค่ะ ถึงจะไม่ได้เกี่ยวกับทะเล

- บุรินทร์ แปลว่า เจ้าเมือง (เป็นลูกเจ้าของมหาลัย)

เรื่องนี้สร้างสรรค์ หรรษา ใสๆไม่มีพิษมีภัย ตอนแรกเสียดายได้ออนช่วงเย็น
แต่ให้เด็กๆดูดีมากเลยค่ะ ดีกว่าให้ไปดูละครโปกฮา ตบตีแย่งผู้ชายเยอะเลย
มีกลอนให้ฝึกคำคล้องจองด้วย

ชอบเรื่องนี้มากค่ะ ^_^

ตามไปดูต่อที่

http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A12298024/A12298024.html

รู้อยู่ว่าจะโดนเซ็นเซอร์ แต่ก็ทำ....

เป็นกระทู้ที่พูดถึง รายการโทรทัศน์ชื่อดังกับชุดของผู้ร่วมรายการ

ENG - Thai television program with sexy outfit

ความเห็นเจ้าของกระทู้

บอกได้คำเดียวว่า เฮ้อ!....รู้ทั้งรู้ว่าใส่แบบนี้แล้วจะโดนเซ็นเซอร์ก็ยังให้ใส่ ตั้งใจใส่หรือทีมงานให้ใส่ ทีมงานก็น่าจะรู้นะครับว่าลิมิตไหนที่จะออกอากาศได้ลิมิตไหนที่จะโดนเซ็นเซอร์ หรือที่ทำไปเพื่อต้องการเรียกเรตติ้งและสร้างกระแสให้รายการ

ไม่ว่าจะรายการวาไรตี้ แม้แต่ละครเองทุกวันนี้คนนั่งหน้าจอรอแต่จะลุ้นว่าเมื่อไหร่พระเอกจะถอดเสื้อสักที วันนี้จะถอดหรือไม่ถอด บางเรื่องพระเอกถอดเสื้อเกือบทั้งเรื่องๆทั้งๆที่มันไม่น่าถอด หากไม่ถอดก็ไม่ติดกระดุมให้เห็นแค่วับๆแวมๆพอเป็นกระสัย


สงสัยว่าทำไมรายการวาไรตี้ต่างๆรวมถึงละคร ทำไมไม่จัดการเรื่องของเสื้อผ้าให้ถูกต้องเพื่อที่จะได้ออนแอร์แบบไม่ต้องเซ็นเซอร์ เพราะเซ็นเซอร์ทีไรตามันก็จ้องอยู่แต่ส่วนที่เซ็นเซอร์แถมบางครั้งเซ็นเซอร์จนหมดอารมณ์ที่จะดู


เครดิต:ตามภาพ

ภาพประกอบ



อันนี้แถม

คนอวดผี 27 มิถุนายน 2555 5/6



ความเห็นที่ 1

คิดในแง่ดีน้องคนนี้อาจจะใส่ชุดนี้มาอัดรายการ

แล้วทางรายการไม่มีชุดจะเปลี่ยนให้ล่ะมั้ง


แต่อีกแง่ก็คือทางรายการต้องการเรียกเรตติ้ง ยิ่งเป็นข่าวยิ่งมีคนพูดถึง

รายการก็จะเป็นที่รู้จักมากขึ้น อาทิตย์หน้าคนอาจจะตามดูอีกว่า

จะมีใครมาโชว์หนองโพอีกไหม

ความเห็นที่ 2

เวิร์กพอยต์ไม่มีวิธีเรียกเรตติ้งที่ดีกว่านี้แล้วหรือ
คิดอะไรไม่ออกก็โชว์นมเข้าไว้

ความเห็นที่ 3

ทำไมรายการไทยเดี๋ยวนี้ชอบเรียกเรตติ้งและสร้างกระแสให้รายการด้วยวิธีเเย่ๆจัง
เเถมไม่คิดถึงผลกระทบที่จะตามมาเลย

ความเห็นที่ 4

พูดตรงๆ นะ เมื่่อไรรายการนี้จะโดนถอดออกจากผัง หรือโดนสังคมโจมตีบ้าง
ใส่ชุดแบบนั้นมาวิ่งหนีผีตอนกลางคืนหรอ? ไม่เหมาะมั้ง.. จะขายเรื่องผี หรือขายอะไร?

เรื่องผี กับเรื่องเซ็กซี่ คิดว่ามันไปด้วยกันได้หรอคะ?

ปล. ตั้งแต่มีรายการ "นม" อวดผี ความศรัทธาของเราที่มีต่อ พี่ป๋อง-กพล เสื่อมไปเยอะ
เจ้าพ่อรายการผีเมืองไทย แต่ไม่มีการทักท้วงจากพี่ป๋อง (ผู้ซึ่งเป็น 1 ในทีมงาน) เลยหรอคะ
ว่าควรให้ผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้แต่งตัวแบบนั้นไปลองของตอนกลางคืนรึเปล่า?

เสื่อมค่ะรายการทีวีเมืองไทย...............

ตามไปดูต่อที่

http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A12300042/A12300042.html

วันอังคารที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ช็อก! แฉทุกขั้นตอน 'น้องปอนด์' TGT เปิดใจ รับ 'ถูกสั่ง' โชว์อกกระชาก 'เรตติ้ง' จริง

เป็นกระทู้ที่พูดถึง ข่าวผู้เข้าแข่งขันในรายการชื่อดัง

เนื้อหาข่าว

"น้องปอนด์" สาวเปลือยอกวาดภาพก็อตทาเลนต์ เปลือยใจแลกอิสรภาพ ยอมรับเป็นครั้งแรก
ถูกสั่งให้เปลือยจริง แสบแก้แล้วค่อยจ่ายเงิน ซัดเอเย่นต์ประสานขับรถรับชื่อบอย
วอนขอความเป็นธรรม...!

หลังจากที่โดนรุมประณามจากสังคมและคนรอบข้างไปหนักหนาสาหัสกับกรณีน้องปอนด์
นางสาวดวงใจ จันทร์สระน้อย จาก จ.แพร่
สาวผู้เปลือยหน้าอกวาดภาพในรายการไทยแลนด์ก็อต ทาเลนต์ 2012 ทางไทยทีวีสีช่อง 3
จนต้องหายหน้าทิ้งปริศนาว่า
การเปลือยหน้าอกวาดภาพนั้นเป็นความตั้งใจของเธอเองหรือเป็นการเตี๊ยมเพื่อเรียกเรตติ้งรายการนั้น

ล่าสุด นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล พิธีกรรายการชื่อดังเปิดเผยผ่านไทยรัฐออนไลน์ว่า
เมื่อวาน (24 มิ.ย.) ตนได้เดินทางไปสัมภาษณ์เปิดใจ
น้องปอนด์สาวเปลือยอกวาดภาพและครอบครัวถึงที่บ้านเกิด จ.แพร่ พร้อมถามเบื้องลึก
เบื้องหลังที่สังคมสงสัยเกี่ยวกับภาพที่นำมาถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในรายการก็อตทาเลนต์ทั้งหมด

นายณวัฒน์ บอกว่า ปัจจุบันปอนด์ประกอบอาชีพโคโยตี้ และไม่เคยร่ำเรียนศิลปะ
(ปอนด์บอกว่าภาพที่เขียนออกไปนั้น เธอเองยังไม่รู้ว่าเป็นภาพอะไร เพราะหลับตาเขียน)
เปิดใจเป็นครั้งแรกว่า
เรื่องราวเบื้องหลังการแสดงบนเวทีทั้งหมดที่เกิดขึ้นบนเวทีนั้น
ตรงกับข่าวสารที่ถูกนำเสนอออกไปในช่วงเวลาที่ผ่านมา

“ปอนด์เล่าว่าภาพที่เราเห็นนั้นเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา
โดยคนที่มาติดต่อชื่อบอยว่าจ้างด้วยเงิน 1 หมื่นบาท
แลกกับการใส่ยกทรงกับกางเกงยีนส์วาดภาพในรายการไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์เพื่อเรียกเรตติ้งอ
เมื่อตกลงนายหน้าชื่อบอยก็ขับรถเก๋งมารับยังที่พักตอนตี 4 ไปถึงโรงละครอักษรา
คิงส์เพาเวอร์ ตอนตี 5 นั่งรอจนกระทั่ง 6
โมงเย็นคนชื่อบอยก็เดินเข้าไปคุยกับทีมงานก็อตทาเลนต์แล้วกลับมาบอกเธอว่าให้เปลี่ยนเป็นเปลือยท่อนบนทั้งหมดก
เพื่อจะได้เป็นกระแสเรียกเรตติ้งให้กับรายการ ซึ่งปอนด์ยอมรับว่าลำบากใจมาก
แต่ก็ต้องทนทำตามที่นายหน้าบอก เพราะไม่มีทางเลือก
เนื่องจากขณะนั้นสามีเธอก็กำลังตกงาน ลูกก็ไม่มีนมกิน
โดยเงินนั้นบอยนำมาจ่ายหลังจากแสดงเสร็จ
ที่สำคัญปอนด์ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเทปเปลือยอกวาดภาพออกอากาศเมื่อไหร่
มารู้อีกทีก็ตอนมีข่าวออกไป ทำให้ปอนด์ช็อกจนต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลทันที
โดยหมอเตือนว่า ถ้ายังเครียดอยู่แบบนี้มีสิทธิ์เป็นโรคประสาทได้”

หลังจากเหตุการณ์เกิดขึ้นพิธีกรผู้ทำหน้าที่สัมภาษณ์ปอนด์บอกว่า
ชีวิตเธอเปลี่ยนไปมากต้องหลบๆ ซ่อนๆ ตามบ้านเพื่อน บ้านคนรู้จัก
พลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปเรื่อย ออกไปไหนไม่ได้เลย แม้กระทั่งออกไปทำมาหากิน
และสิ่งเดียวที่เธอพูดย้ำๆ ก็คืออยากจะขออิสรภาพคืน พร้อมกับขอโทษทุกคน
เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นมันคือความจำใจ

“สาเหตุที่สำคัญที่ทำให้ต้องออกมาเปิดใจครั้งนี้ปอนด์บอกว่าเธอเห็นและฟังอีกฝ่ายออกมาให้ข่าวเพียงฝ่ายเดียวมาตลอดั
จึงอยากออกมาชี้แจ้งข้อเท็จจริง
เพื่อแลกกับอิสรภาพในชีวิตของตัวเธอหลังจากนี้เป็นต้นไป”

นอกจากเรื่องข่าวฉาวแล้ว ยังมีการพูดคุยกับตัวคุณพ่อ
ซึ่งเป็นอดีตนักมวยชื่อดังที่เป็นอัมพาต ขยับตัวได้แค่เอียงซ้ายเอียงขวา
ต้องต่อท่อปัสสาวะ ท่ออุจจาระออกมานอกตัวและที่สำคัญต้องไปโรงพยายาลเดือนหนึ่ง 2–3
ครั้งเป็นชีวิตที่น่าสงสารมาก

“คุณพ่อเขาร้องไห้ตลอดเวลาในการพูดคุย และก็เสียใจกับสิ่งที่ลูกสาวทำทั้งหมด
ซึ่งมันทำให้เรารู้ว่าปอนด์เป็นเด็กดีส่งเสียเลี้ยงดูครอบครัวมาตั้งแต่อายุ 14 ปี
โดยชีวิตปอนด์นั้นผันผวนไปเรื่อย จนกระทั่ง ม.5
ก็ต้องมายุติการเรียนอย่างเป็นทางการ เพราะว่าต้องทำงานทุกวันไม่ไหว”

ปัจจุบันครอบครัวน้องปอนด์ ได้อยู่ในความอนุเคราะห์ของมูลนิธิ มิราเคิล ออฟไลฟ์
ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี

และนี่คือส่วนหนึ่งของการเปิดใจครั้งแรกของน้องปอนด์
สาวที่ตกเป็นเหยื่ออันโอชะของคนเห็นแก่ตัวบางคน โดยเทปการเปิดใจน้องปอนด์
ก็อตทาเลนต์ กับรายการ มิราเคิล ออฟไลฟ์ จะออกอากาศทาง ช่องโมเดิร์นไนน์
ในวันเสาร์ที่ 30 มิ.ย. นี้ เวลา 15.00-16.00 น.

ไทยรัฐออนไลน์
โดย ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์
25 มิถุนายน 2555, 18:20 น.

ที่มา

http://www.thairath.co.th/content/life/271073

ภาพประกอบ



ความเห็นที่ 1

เราก็ไม่ชอบ...ในสิ่งที่เค้ากระทำออกทีวี แต่ฟังเค้าพูด ก็เห็นใจนะ

คนเรา...บางสถานะการณ์ เหตุการณ์มันก็พาไป จนอาจต้องทำบางอย่างที่ผิดได้
ถ้าใจไม่แข็งพอ และไม่มีสติพอ...ที่จะเดินออกมาจากจุดนั้น
คนที่มีอำนาจ มักใช้ความได้เปรียบนี้ บีบคนที่อ่อนกว่าได้ง่าย ๆ

อย่าซ้ำเติมเค้าอีกเลยค่ะ เราว่าเค้าโดนมามากพอแล้ว
เราว่าเค้า ... ก็เป็น "เหยื่อ" คนนึงนะคะ

ความเห็นที่ 2

เรื่องระดับเปลือยหน้าอกวาดรูป
คุณคิดหรือว่าระดับผู้บริหารอย่างคุณปัญญาจะไม่ทราบ

เป็นเรื่องซีเรียส และคิดหนัก ถ้าระดับลูกน้องไม่ขออนุมัติเจ้าของ
คิดดูว่าจะได้ออกอากาศหรือเปล่า แต่ประเด็นคือ ทาง work point (รู้ชัวร์)
เขาจะแจ้งให้ช่อง 3 ทราบหรือไม่ ความจริงทางช่อง 3 น่าจะมีทีมเซ็นเซอร์ในระดับหนึ่งนะ

คุณปัญญาคงตอบคำถามที่โดน คุณปอนด์แฉไม่ได้ งานนี้หลบอย่างเดียว
คิดว่าทุกอย่างก็คงเงียบไปเอง เชื่อเหอะ...

ความเห็นที่ 3

ถ้าเป็นจริงก็เข้าใจคุณปอนด์ แม้จะไม่ถูกต้อง แต่ก็มีความจำเป็นอยู่เบื้องหลัง

แต่ที่ต้องประฌามมากๆ คือ work point อยากได้กระแสมากจึงต้องทำงี้เลยเหรอ
ทั้งๆ ที่ไม่ใช่รายการสด ตัดออกไปก็ได้แต่ไม่ตัด เพราะจ่ายเงินให้เค้า

ถ้าเป็นจริง สมควรแบนรายการ TGT ออกไป

ความเห็นที่ 4

ที่น้ำเน่าสุดๆก็คือ กรรมการบอกว่าเป็นศิลปะ และบอกว่าถ้าอยู่มิลาน ฟลอเรนซ์ ก็โอเค
กรรมการอีกคนอวดตัวว่าเป็นผู้ร่ำเรียนศิลปะ และมองว่าการแสดงที่เห็นเป็นศิลปะ

แต่ผู้แสดงเกิดมาไม่เคยเรียนศิลปะ และไม่รู้ด้วยว่าวาดภาพอะไรไปเพราะหลับตาเขียน

ตามไปดูต่อที่

http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A12287785/A12287785.html

"มะเร็งทำลายอนาคตคนที่อยู่ข้างหลัง" เป็นมะเร็งนี่มันแย่ขนาดนั้นเลยหรอ

เป็นกระทู้ที่พูดถึง โฆษณาของบริษัทประกันแห่งหนึ่ง

ENG - Advertising with Cancer

ความเห็นเจ้าของกระทู้

โฆษณาไทยประกันชีวิตตัวใหม่
เหอะๆ
ฟังแล้วสะอึกเลย

คิดถึงหัวอกคนที่เป็นมะเร็งไหมหว่า

ภาพยนตร์โฆษณาไม่มะเร็งมีคืน



ความเห็นที่ 1

เห็นด้วยเลยค่ะ ทำโฆษณาแบบคิดมุมเดียวจริงๆ คนที่ทำคงห่างไกลมะเร็งจนนึกไม่ถึงผลกระทบ

ความเห็นที่ 2

จริงๆ ต้องบอกว่า "ค่ารักษาพยาบาลทำลายอนาคตคนที่อยู่ข้างหลัง" ถึงจะถูก

ความเห็นที่ 3

มันเจ็บปวดน๊ะ
เรื่องนี้ไม่ต้องพูดคนที่ป่วยเองเค้าก็รุ้สึกแย่มากอยู่แล้ว
ไม่ต้องมะเร็งหรอก..ทุกโรคที่ต้องรักษานานๆนั่นแหละค่ะ
คนป่วยเองก็ไม่มีใครลัลลาแบบ เย๊ ป่วยว่ะ ดูแลตรูที
ไม่ต้องตอกย้ำขนาดนี้ก็ได้
อีกอันประกันคนสูงอายุ...ที่บอกว่าทำไว้ค่ะ จะได้ไม่เป็นภาระกับลูกหลาน
แล้วถ้าไม่ทำหล่ะ? แปลว่าคนแก่คนนั้นเป็นภาระลูกหลานเหรอ?
ถึงลูกหลานเค้าจะไม่ได้คิด
แต่คนแก่ คิดนะคะ
คนทำโฆษณาเดี๋ยวนี้นี่ยังไง บางคนก็ไม่ได้คิดถึงจิตใจผู้รับสารกันมั่งเลย

ความเห็นที่ 4

แค่จะขายประกัน ต้องครีเอทอะไรที่มันบ่อนทำลายกำลังใจของผู้ที่ป่วยเป็นมะเร็งอยู่แล้วถึงขนาดนี้ด้วยเหรอ..

ไอ้คนที่ยังไม่เป็นมะเร็ง(ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายของโฆษณานี้) คงดูแล้วตื่นตัวด้วยความสยอง แล้วอยากซื้อประกันอยู่หรอก..

แต่คนที่ดูแล้วเครียด ดูแล้วอยากเปลี่ยนช่องหนี ก็คงไม่พ้นผู้ป่วย และครอบครัวนั่นแหละ
ใครป่วยหรือครอบครัวที่ต้องดูแลผู้ป่วยมะเร็งเครียดมากนะขอบอก เหมือนนับถอยหลังรอน่ะ..กำลังใจสำคัญมากๆ

โฆษณานี้ raise awareness ผู้คนปกติทั่วไปได้ดีนะ..แต่ดูแย่มากสำหรับผู้ป่วยซึ่งมีไ่ม่รู้กี่หมื่นกี่แสนคนตอนนี้

ตามไปดูต่อที่

http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A12288501/A12288501.html

วันอาทิตย์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2555

แอฟ ทักษอร กับ สน ยุกต์ ในงานShanghai International Film Festival ครั้งที่ 15 @ จีน{แตกประเด็นจาก A12243146}

เป็นกระทู้ที่พูดถึง ดาราไทยในงาน Shanghai International Film Festival ที่ประเทศจีน

ENG - thai star in Shanghai International Film Festival 15th

ความเห็นเจ้าของกระทู้

แอฟ ทักษอร และ สน ยุกต์ เข้าร่วมงาน Shanghai International Film Festival ครั้งที่ 15 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16 – 24 มิ.ย. นี้ นอกจากนี้ยังมีเต๋อ ฉันทวิทย์ และผู้กำกับหนังชื่อดังจากไทยหลายคนเข้าร่วมในงานครั้งนี้ด้วย (เครดิตรูป weibo,baiduและแฟนคลับชาวจีน)


เช้านี้แอฟ ทักษอรเดินทางถึงเซี่ยงไห้แล้วกล่าวทักทายแฟนคลับโดยการสวัสดีแบบไทย

ภาพประกอบ



แอฟกับแฟนคลับชาวจีนบางส่วนที่มารอรับที่สนามบินช่วงเช้าวันนี้ ( 7 โมงเช้า) ซึ่งแฟนคลับบางคนไปรอตั้งแต่ีีตี 4 (ตามเวลาประเทศจีน)

ภาพประกอบ



ทีมไทยกับเฉินหลง (เครดิตตามรูป)

ภาพประกอบ



สน กับ หลิวอี้เฟย (เครดิตตามภาพ)

ภาพประกอบ



อันนี้แถม

Aff Son@Shanghai Internationa Film Festival 15-电影节红毯秀



专访泰国影星Son Son interview with ent.qq



กระทู้เพิ่มเติม

http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A12243146/A12243146.html

ความเห็นที่ 1

แอฟแต่งตัวเรียบ ๆ หน้าแต่งอ่อนดีด้วย แอฟนี่เหมาะสมในทุกเวลาจริง ๆ

ดีใจกับแฟนคลับจีนด้วย สมใจแล้วได้เจอนางเอกตัวจริงซะที

ความเห็นที่ 2

สน ยุกต์ นี่มาดเฉียบจริงๆ
เหมาะกะการถ่ายภาพนิ่งที่สุดแล้ว หุ่นเท่มาก สมชายมาก กำลังงาม

ความเห็นที่ 3

ทั้งสวย หล่อ เริ่ดดดด>__< เป็นความภูมิใจของบันเทิงไทยจริงๆ ขอให้กระแสตอบรับดียิ่งๆขึ้นไปนะคะ

ความเห็นที่ 4

สวยมากหล่อมากค่ะ ขอให้อุตสาหกรรมละครไทยไปไกลกว่าเดิม

ตามไปดูต่อที่

http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A12244827/A12244827.html

เกาหลีใต้เจ๋ง ให้คนตาบอดเป็นผู้ประกาศข่าว

เป็นกระทู้ที่พูดถึง การให้โอกาสคนพิการทำงานในประเทศเกาหลีใต้

ENG - handicapped man on south korea TV

เนื้อหาข่าว

สถานีโทรทัศน์เกาหลีใต้ จ้างคนตาบอดเป็นผู้ประกาศข่าวเป็นคนแรก ขณะที่เจ้าตัวก็หวังจะเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้พิการรายอื่น

วันนี้(16มิ.ย.55)ลี ชาง-ฮุน วัย 27 ปี ผู้พิการตาบอด ได้รับการว่าจ้างจากสถานีโทรทัศน์ KBS ให้เป็นผู้ประกาศข่าวคนแรกของเกาหลีใต้ หลังจากผ่านการคัดเลือกเมื่อปีที่แล้ว จากผู้สมัครกว่า 500 คน เขาต้องอ่านข่าวจากตัวอักษรเบรล ขณะที่คนอื่นๆอ่านจากเทเลพร้อมเตอร์ ลี บอกว่าการปรากฎตัวทางโทรทัศน์เป็นปัจจัยสำคัญสำหรับผู้ประกาศ และว่างานที่ท้าทายที่สุดของเขาคือท่าทางและการแสดงออกทางสีหน้าซึ่งเป็นสิ่งที่เขาไม่สามารถเห็นว่าตัวเองเป็นยังไง เขาบอกว่าคนจะกังวลว่าเขาจะผิดพลาดหรือไม่โดยในใจตัวเขามากกว่าเนื้อหาของข่าว

ทั้งนี้ทางสถานี KBS ยังจ้างผู้ช่วยให้กับลีและลงทุนซื้ออุปกรณ์ราคาแพงอย่างเครื่องพิมพ์อักษรเบรล และเครื่องอ่านข้อมูลอักษรเบรล ซึ่งลีใช้ในการอ่านข่าว ในห้องข่าว ยังติดตั้งอุปกรณ์ตั้งพื้นเพื่อช่วยให้ลีสามารถเคลื่อนไหวไปรอบๆได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องให้คนคอยช่วยเหลือ ซึ่งลีบอกว่าด้วยความช่วยเหลือทุกอย่าง ความพิการของเขาจึงไม่ใช่ข้ออ้างที่จะไม่ทำงาน และว่ากุญแจของความสำเร็จของเขาคือทำงานให้หนักขึ้น ลี รับผิดชอบในการอ่านข่าวสั้นประจำวัน มาเป็นเวลา 7 เดือนแล้ว เขาหวังว่าการปรากฎตัวทางโทรทัศน์จะเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้พิการคนอื่นๆและให้ทัศนคติในเชิงบวกเปลี่ยนแปลงสังคม

ที่มา

http://www.tnnthailand.com/news/details.php?id=43971

ภาพประกอบ



ความเห็นที่ 1

เจ๋งอ่ะ แบบนี้สิน่าชื่นชม คนพิการในหลายๆ ประเทศจะได้มีกำลังใจในการสู้ชีวิตบ้าง

ถ้าหากว่าพวกเขาได้รับโอกาสในการทำงานเช่นคนปกติอย่างเราๆ ในทุกๆ ประเทศ

เรื่องดีๆ แบบนี้น่าเอาเป็นแบบอย่างค่ะ

ความเห็นที่ 2

เจ๋งอ่ะ

ความเห็นที่ 3

สุดยอดอ่ะ

ปกติ คิดว่าเกาหลี วัตถุนิยม ผมคงคิดใหม่แล้วอ่ะ

เขาส่งเสริมเป็นรูปธรรมชัดเจนเลยอ่ะครับ

ความเห็นที่ 4

เป็นเรื่องดีๆ ที่ควรเดินตามครับ

ตามไปดูต่อที่

http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A12247258/A12247258.html

วันเสาร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2555

“แอนนี่” เอาปี๊บคลุมหัว! “ฟิล์ม” ซัดกลับพ่อตัวจริงมาสารภาพบาปแล้ว อยากรู้เป็นใครให้เอาหน้าไปวัดกับคนที่เคยเป็นข่าว

เป็นกระทู้ที่พูดถึง เรื่องข่าวลูกดาราสาวกับนักร้องหนุ่ม

เนื้อหาข่าว

“ฟิล์ม” เม้งแตก “แอนนี่” ไปออกรายการ “สรยุทธ” ไม่ยอมตอบใครเป็นพ่อ อ้างหน้าตาเฉยเลยจุดนั้นมาแล้ว เจ้าตัวบอกตนรู้ดีว่าพ่อตัวจริงเป็นใคร เพราะอีกฝ่ายมาสารภาพบาปแล้ว ใบ้อยากรู้คือใครให้เอาหน้าไปวัดกับคนที่เคยเป็นข่าว กัดแอนนี่อย่าเอาพื้นที่ข่าวมาเป็นพื้นที่ให้ตัวเองในสังคม แล้วทำให้คนอื่นตายอีกเลย

ยังไม่จบง่ายๆ สำหรับปัญหาลูกใครหว่า?! ระหว่าง “แอนนี่ บรู๊ค” กับ “ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์” หลังฟิล์มออกมา ปะ ฉะ ดะ เฉ่ง แอนนี่ไม่ยอมถอนชื่อออกจากการเป็นพ่อ “น้องทีฆายุ” ตามคำสั่งศาล จนตนเองได้รับผลกระทบ และสลัดตราบาปไม่ออกสักที

แต่ปรากฏว่า นอกจากแอนนี่จะยังไม่ไปถอนชื่อแล้ว ยังไปออกรายการ “เจาะข่าวเด่น” ของ “สรยุทธ สุทัศนะจินดา” ทางช่อง3 โดยจะออกอากาศในวันจันทร์ที่ 18 มิ.ย.นี้ ซึ่งเนื้อหาบางช่วงบางตอนแอนนี่ฉะฟิล์มว่าเป็นคนผิดสัญญา เพราะเอาเรื่องถอนชื่อออกมาพูดให้สังคมรับรู้ ทั้งนี้ยังมีข่าวว่า แอนนี่หอบเอกสารเตรียมอัดกลับฟิล์มอีกด้วย

ล่าสุด เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ที่ผ่านมา ฟิล์มได้มาร่วมงานเปิดสาขาสลิมมิ่งพลัส ที่ เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า ซึ่งในงานนี้เองที่ฟิล์มถึงกับระเบิดอารมณ์ออกมาอีกครั้ง ซ้ำยังแฉแบบไม่กั๊กอีกต่อไป ว่าพ่อตัวจริงมารับสารภาพแล้ว อยากรู้ว่าเป็นใครให้เอาหน้าไปวัดกับคนที่เคยเป็นข่าวกับแอนนี่ ..แร๊งส์!!

“ไม่รู้เลย และไม่น่าจะถูกต้อง ผมฟังบางทีก็ตลกเหมือนกันนะ ผมไม่ได้พูดอะไรเลย แล้วเขามาออกรายการก่อน เช้ามาก็มีคนมาถามผม ผมก็แค่พูดในส่วนที่ถูกต้องไป ว่าเรื่องนี้มันนานแล้ว พอพูดไปเสร็จ เขาก็เหมือนมีความกระตือรือร้นมาก”

เนื้อหาในการให้สัมภาษณ์ “แอนนี่” บอกว่า “ฟิล์ม” ทำผิดสัญญาเรื่องออกมาพูดถอนชื่อความเป็นพ่อ กับเรื่องนี้ฟิล์มบอกว่า…

“ผมก็แค่ระเบิดไปว่า ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น เราต้องการที่จะทำงาน พองานอะไรใหม่ๆ ของฟิล์มออกมา ก็จะมาแล้ว…(ลากเสียงยาว) เอาอีกแล้ว มาทำลายความมั่นคงอีกแล้ว ผมว่ามันไม่น่าจะเอามาอ้างเป็นประเด็นกันได้ ถึงใครจะพูดยังไงก็ตาม แล้วทำไมถึงไม่ทำตามที่ตกลงไว้ล่ะครับ ผมรอมา 4 เดือนแล้ว ยังไม่เคลียร์เลย”

“ที่บอกว่าเขามีเอกสารมาออกรายการด้วย ไม่น่ามีนะครับ มีศาลมีพยานทั้งนั้น แต่สิ่งที่ผิด ที่ทุกคนสามารถจะรู้ได้คือ ทำไมไม่ไปถอดออกสักที ผมเบื่อ ผมอยากจบ ครั้งแรกบอกว่าไม่ได้เซ็นชื่อใครเป็นพ่อ ครั้งนี้มาเปลี่ยนอีกแล้ว กลายเป็นชื่อผม ซึ่งที่ผ่านมา ผมไม่เคยออกมาเรียกร้องอะไรทั้งนั้น แต่เขาก็ไม่ไปทำตามที่ตกลงไว้ซะที มันยังตกลงวันเซ็นกันไม่ได้ ต้องแล้วแต่ทนาย ถามฟิล์มเองก็ไม่รู้”

ดูเรามั่นใจมากว่าไม่ใช่พ่อของลูก “แอนนี่” ?

“ผมมั่นใจมาก นานมากแล้วครับ และมั่นใจมาตลอด ผมรู้ดีแก่ตัวเอง แต่ผมพูดอะไรไม่ได้เพราะผมเป็นผู้ชายแล้วผมก็ไม่ได้อุ้มลูก ผมทำอะไรไม่ได้เลย ผมได้แต่ขอความเป็นธรรมจากทุกฝ่าย ทำในสิ่งที่ถูกต้องที่สุด ผมรู้ดีว่าผมไม่ใช่”

“ผมสงสารน้อง(ทีฆายุ)เหลือเกินครับ สงสารเหลือเกิน ทำไมต้องมีผู้ใหญ่มาทำอะไรกับเขาแบบนั้น เห็นหน้าน้องแล้วเขาก็น่ารักครับ ที่สงสารมากที่สุดคือ เมื่อไหร่เขาจะรู้สักทีว่าใครเป็นตัวจริง เมื่อไหร่จะมีความชัดเจนให้เขาสักที ณ วันนี้ก็ยังไม่ยอมอีก โอ๊ะ…(ร้องอุทานพร้อมถอนหายใจ)”

บอกรู้อยู่เต็มอกว่าพ่อตัวจริงของ “ทีฆายุ” เป็นใคร แต่พูดไม่ได้

“ผมรู้ครับ ทุกอย่างมันรู้แล้วก็เคลียร์ชัดไปตั้งแต่ในศาล อยู่ในศาลมันพูดความจริงกันทั้งนั้น ไม่มีใครโกหกได้ (คนที่เป็นพ่อจริงๆ เขาได้ออกมาช่วยเหลืออะไรเราบ้างมั้ย?) เขาก็มารับแล้ว แต่ก็อืม....นะ มันขึ้นอยู่กับว่าเขาจะยังไง”

เท่ากับว่าหน้าน้อง “ทีฆายุ” ตอนนี้ก็ไม่ได้เหมือน “ฟิล์ม” ว่างั้น?

“ผมว่าทุกคนก็น่าจะรู้อยู่แล้ว น่าจะวัดได้กับคนที่เคยมีกระแสข่าวที่ผ่านมา มีกี่รายในรายชื่อ เอาเลยครับ ไปวัดกันเอา”

แล้วคนนั้นเขาได้จัดการอะไรในหน้าที่พ่อบ้าง?

“ผมเบื่อจริงๆ ก่อนอื่นผมต้องขอบคุณรายการอาสรยุทธที่มาบอกว่า ผมต้องการความชัดเจน ผมดีใจมากที่อาพูดแบบนั้น ผมบอกผมรู้ว่าผมไม่ใช่ แอนนี่พูดว่ามันเลยจุดนั้นไปแล้วค่ะ เลยอะไรอ่ะ(กระแทกเสียง) สงสัยนะเลยอะไร คำถามที่ตัวเองตอบไม่ได้ ตอบเลยจุดนั้นไปแล้ว อ้าว แล้วคนที่เป็นอยู่อย่างนี้ อ้าว....เฮ้ย...มันเลยอะไรวะ จะเลยอะไรผมรออยู่เลย”

“ทุกคนสามารถรู้ได้ แล้วผมก็พูดอะไรได้ไม่มากนัก ไปวัดกันเอาเอง ผมกำลังเริ่มทำงานใหม่ๆ มีพรีเซ็นเตอร์เข้ามามากมาย สั่นเลยทีนี้ สั่นมากด้วยครับ ตอนนี้ยังไม่มีใครถอน แต่ก็เริ่มแล้วล่ะ”

“ผมอยากบอกแค่ว่าสงสารผมเถอะครับ ผมเป็นคนๆ นึงที่ต้องหาเลี้ยงครอบครัว ความจริงก็คือความจริง อย่าหนีกันไปเลย แล้วก็อย่าเอาพื้นที่ตรงนั้นมาเป็นพื้นที่ให้ตัวเองในสังคมเลย แล้วให้คนอื่นตายอ่ะ ขอร้องเถอะครับ”

ที่มา

http://www.manager.co.th/entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9550000073803

ความเห็นที่ 1

ขอประนาณพ่อตัวจริงของน้องทีคะ ถ้าที่ฟิล์มให้สัมภาษณ์มาจริง
แสดงว่าคนที่พ่อตัวจริงเค้าก็รู้ตัวแล้วว่าเค้าคือพ่อ

เรื่องถึงขนาดนี้แล้ว น่าจะสงสารลูกในไส้ตัวเองบ้าง ออกมาพูดอะไรบ้าง
แสดงตนไปเลยว่าผมนี่แหละพ่อ ประกาศให้สังคมรู้ว่าน้องเป็นลูกมีพ่อ

อย่าให้ใครลากเอาหน้าน้องไปเทียบกับใครอีก
มันเกร่อเหลือเกินในอินเตอร์เนท สงสารน้องถ้าวันนึงโตมาเจอ

ความเห็นที่ 2

แอนนี่...เธอฟังนะ



"ไม่มีคำว่า...เลยจุดนั้นมาแล้ว"


อย่าบ่ายเบี่ยงการตรวจดีเอ็นเอด้วยคำนี้


เพราะอะไรรรู้ไหม................


ไม่มีวันเลยจุดที่ควรตรวจดีเอ็นเอ
ตราบใดที่ลูกของเธอยังมีชีวิตอยู่บนโลกนี้


เพราะตลอดชีวิตของเขา เขาคงรอคำตอบอยู่เช่นกัน

ความเห็นที่ 3

ไม่น่าเชื่อถือตั้งแต่ที่ไม่ยอมตรวจ DNA แล้วล่ะ
แต่ที่ผิดหวังมากกว่าคือ รายการเรื่องเด่นเย็นนี้
ทำไมถึงเห็นแก่ผลประโยชน์ของสถานีมากขนาดนี้
โดยไม่คิดถึงความถูกต้อง จรรยาบรรณสื่อหายไปไหนหมด

แต่ก่อนชอบดูข่าวของช่อง 3 มากนะ
เปิดโทรทัศน์ทีไรก็จะเปิดแต่ช่องนี้
แต่เดี๋ยวนี้ตั้งแต่ได้ไปดู Thai PBS ไม่อยากดูช่อง 3 ไปเลย
ต้องการเรทติ้ง ต้องการรายได้จากการโฆษณา โดยไม่คำนึงถึงความถูกต้อง

ความเห็นที่ 4

ละอายใจบ้างอะไรบ้าง............ตอนนี้ยังไม่โดนกระแสสังคมเยอะ เพราะเขาส่งสารน้อง แต่ถ้าวันนึงมันเกินไป โดนกระแสสังคมลงโทษ แล้วจะโทษใคร

ส่วนฟิลม์เราว่า เขาทำดีที่สุึดเท่าที่จะทำได้แล้วนะ ถอนชื่อไปใ้ห้มันจบๆให้มันแล้วๆกันไป เวรกรรมมันจริง ฟิลม์โชคดีนะ ชดใช้กรรมไปล่ะ ที่ทำไม่ดีเอาไว้ งานหดหาย ชื่อเสียงตกต่ำ สังคมประนาม

แอนนี่เอ๋ยยยย ถอนตัวยังทันนะ.......... "กรรมตามทัน" จริงๆนะ

ตามไปดูต่อที่

http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A12244680/A12244680.html

วันพุธที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2555

อาร์เอสประกาศดูลาลีกาไม่มีจอดำ!!!

เป็นกระทู้ที่พูดถึง ข่าวการถ่ายทอดสดฟุตบอลจากต่างประเทศ

ความเห็นเจ้าของกระทู้

ไม่ต้องซื้อกล่องซันบ๊อก เพิ่มอีกกล่องแล้ว

เนื้อหาข่าว

อาร์เอส ปัดตอบคำถามสัญญาณถ่ายทอดสดบอลยูโร พร้อมยันช่วงถ่ายทอดสดบอลลาลีกา สเปน จอไม่ดำ ฟรีทีวีรับชมได้ ล่าสุดเปิดค่ายเพลงน้องใหม่ CHO MUSIC

รายงานข่าวจาก บมจ.อาร์เอส เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา ระหว่างการแถลงข่าวธุรกิจเพลงค่ายใหม่ภายใต้การบริหารงานบริษัท ย๊าค จำกัด ในเครืออาร์เอส ซึ่งมีนายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ร่วมงานแถลงข่าวดังกล่าว โดยระหว่างการแถลงข่าว นายสุรชัยปฏิเสธที่จะตอบคำถามเกี่ยวกับลิขสิทธิ์สัญญาณการถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโร 2012 ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน)

นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อาร์เอส เปิดเผยว่า ความคืบหน้าของการได้สิทธิ์ ผู้บริหารจัดการสิทธิ์ การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอล ลาลีกา สเปน (La Liga Spain) 3 ฤดูกาลติดต่อกัน ตั้งแต่ปี 2012-2015 ซึ่งบริษัทได้สิทธิ์การถ่ายทอดสด ขอยืนยันว่าฟรีทีวีสามารถรับชมการถ่ายทอดการแข่งขันกีฬาดังกล่าวได้ปกติ เช่นเดียวกับครั้งที่บริษัทเคยได้สิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก โดยในส่วนของรายละเอียดการถ่ายทอดสดดังกล่าว บริษัทขอชี้แจงอีกครั้งในช่วงปลายเดือน มิ.ย.นี้

สำหรับภาพรวมของการดำเนินธุรกิจในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่ธุรกิจเพลงได้เข้าสู่ยุคดิจิตอล โดยในส่วนของบริษัทเองก็ได้มีการปรับตัวรับกับกระแสดังกล่าว เนื่องจากมองว่าดิจิตอลถือเป็นยุคทองของธุรกิจเพลง ถึงแม้ว่าจะเป็นยุคที่มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นแบบมาเร็วไปเร็ว แต่บริษัทก็จะยังคงเดินหน้าพัฒนาธุรกิจเข้าสู่ยุคดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง

“ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา รายได้จากธุรกิจเพลงที่มาจากยอดการดาวน์โหลดค่อนข้างทรงตัว แต่ยังทำได้ดี ส่วนโชว์บิซมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีขึ้น ส่งผลให้ทางบริษัทได้มีการศึกษาและมองเห็นโอกาสที่จะบุกเพิ่มค่ายเพลงที่จะตอบโจทย์วัยรุ่นได้มากขึ้น” นายสุรชัย กล่าว

ล่าสุด บริษัทได้เปิดตัวค่ายเพลงน้องใหม่ คือ CHO MUSIC (โชว์ มิวสิค) ภายใต้กลยุทธ์ Fully Digital Music ภายใต้การบริหารงานโดย บริษัท ย๊าค จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครืออาร์เอส ดูแลในส่วนของรายการทางฟรีทีวี และช่อง ย๊าค ซึ่งในส่วนของค่ายเพลงดังกล่าว จะเป็นค่ายเพลงแนว POP MASS ตอบโจทย์ความบันเทิงครบวงจร ภายใต้คอนเซ็ปต์ Big Group Big Gen หรือการวางแผนสร้างศิลปินออกมา 2 กลุ่ม คือ กลุ่มศิลปินชาย ในชื่อ Vamp และ กลุ่มศิลปินหญิงในชื่อ Shuuu ซึ่งภายหลังจากที่บริษัทเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง คาดว่าสิ้นปีจะมีรายได้ตามเป้าหมายที่ 3,200 ล้านบาท.

ที่มา

http://www.thaipost.net/news/120612/58116

ความเห็นที่ 1

ลาลีกา ปีนึงเตะกัน 8-9 เดือน สัปดาห์นึงก็ประมาณ 10 นัดต่อสัปดาห์

เฮียแกไม่ได้หมายถึงว่าจะถ่ายทุกคู่สักหน่อยนี่ครับ ฟุตบอลลีคเตะักันเป็นร้อยๆ นัด เอาแบ่ง
มาถ่ายฟรีทีวีสัปดาห์ละนัด ก็ถือว่าฟรีหมด ถูกไหม? บอลลีคมันไม่มีใครบ้าดูครบทุกคู่อยู่แล้ว
เพราะมันเป็นไปไม่ได้ แต่บอลทัวร์นาเม้นท์ มันมีแค่ไม่กี่สิบนัด คนเค้าหวังดูทุกคู่

ตามเกมให้ทันครับ เฮียเค้าไม่ได้โกหกพกลมอะไรหรอก แต่สุดท้าย ถ้าอยากดูลาลีก้าทุกคู่
หรืออยากให้มั่นใจว่าจะได้ดูคู่ที่เราอยากดูแน่นอน ก็ต้องซื้อกล่องอาเฮียเค้า ซึ่งผมเอง ถ้า
สนใจ ผมก็ไปซื้อหามาดูเหมือนกัน เพราะมันถูกกว่าต้องมานั่งจ่ายรายเดือนให้ทรูวิชั่นส์
เดือนละเกือบ 2,000 บาท!!!

ความเห็นที่ 2

โห RS ออกข่าวแบบนี้ ตี ทรู โดยตรงชิ่งกระทบ Gmm เลยแฮะ

คราวนี้ RS เกทับ แล้ว ทรู ออกมา เกกับด้วยสิ ประกาศไปเลย

จะถ่ายทอดฟรีทีวี กี่คู่กี่ตอนโชว์กันไปเลย เอาแมนๆหน่อย

ความเห็นที่ 3

ดูทีมเกรด C และ D ล่ะมั้ง ที่เอามาถ่ายทอดสดให้ดูฟรีๆๆ
อย่างมากก็ทีมระดับ B ส่วน A น้ั้นคงมีสักนัดแระ
ยกเว้น R.Madrid และ Barcelona ที่ไม่มีวันถ่ายทอดสดทางฟรีทีวีแน่นอน

ความเห็นที่ 4

ก็เหมือนกันเเหละครับ
หลายปีก่อน ตอนที่ทรูเเบ่ง EPLให้ออกช่อง3กับช่อง 7 ได้
ใครเคยดู
เเมนยู-เชลซี เเมนยู -ลิเวอร์พูล เเมนยู -อาร์เซน่อล
เชลซี- ลิเวอร์พูล เชลซี -อาร์เซน่อล
ลิเวอร์พูล -อาร์เซน่อล ทางฟรีทีวีบ้าง
หรือตอนนี้ ใครเคยดูไทยพรีเมียร์ลีกคู่
ชลบุรี -บุรีรัมย์ ชลบุรี -เมืองทอง ชลบุรี -บางกอกกล๊าส
เมืองทอง -บุรีรัมย์ เมืองทอง -บางกอกกล๊าสบ้าง
ทางช่อง 11 หรือทางช่องของสยามกีฬาบ้าง
เห็นไปถ่ายช่องทรู 2 ที่ต้องเสียเงินดูทั้งนั้น

ตามไปดูต่อที่

http://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S12231568/S12231568.html

วันอังคารที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2555

บรรยากาศงาน Anime Festival Asia 2012 ที่ กัวลาลัมเ้ปอร์ มาเลเ้ซีย

เป็นกระทู้ที่พูดถึง งานเทศกาลการ์ตูนใน ประเทศ มาเลเซีย

ENG - Anime Festival Asia 2012 in malaysia

ความเห็นเจ้าของกระทู้

มาแล้่วครับ สำหรับภาพบรรยากาศงาน Anime Festival Asia 2012
ที่เพิ่งจะจบไปเมื่อ 9-10 มิย แต่ต้องขอออกตัวก่อนนะครับว่าผมเองก็ไม่ได้ไปงานนี้
(เสียดายอ่าาา ) เลยต้องรวบรวมภาพมาจากแหล่งต่างๆ มาให้ท่านชมกันครับ

ที่มาของข่าว

http://www.animemoenews.com/?p=637

ภาพประกอบ



เริ่มจากบริเวณหน้างาน



โบชัวร์



บูต Good Smile Company


เอาของเด็ดมาโชว์ด้วยครับ


Madoka Godess ตัวละ 7xxx บาท



ตู้กาชาปอง



คุณมิโยโกะ เลเยอร์ชื่อดังก็มาด้วยครับ



ความเห็นที่ 1

หมดแล้วครับ สำหรับงาน afa ครั้งแรกที่มาเลเซียก็ผ่านไปด้วยดี แม้ต้องจ่ายค่าผ่านประตู แต่คนไปกันเยอะจริงๆ แต่ปลายปีก็ยังมีงาน AFA12 ที่สิงคโปร์นะครับ.... 9-10-11 เดือน พย. ยังไงก็รอลุ้นข่าวกันละครับว่าจะมีศิลปินคนไหน และมีของเด็ดๆมาโชว์หรือเปล่า ส่วนบ้านเราแค่มีงาน thaoland game show, oishi cosplay และ Anime Music Festival ทุกปีนี้ก็ดีใจแล้วแหละเนอะ


Special Thanks : meimei_th @ Anime Moe News

ความเห็นที่ 2

อยากให้ มิโยโกะ มาไทยบ้าง~

ความเห็นที่ 3

อยากเจอ Kalafina ตัวเป็นๆมั่งงง~~

ความเห็นที่ 4

ผมไปงานวันแรกมา คอนเสิร์ตเป็นอะไรที่เจ๋งมาก ศิลปินเล่นกันเต็มที่ จากที่ตั้งใจจะไปดูKalafinaเป็นหลัก กลายเป็นว่าได้สนุกกับMaon Kurosakiแบบไม่แพ้กัน(เธอครบเครื่องทั้งร้องและเต้นจริงๆ) ระบบเสียงของสถานที่แสดงคือTun Razak Hallที่PWTCก็เยี่ยมมากๆ(คงเพราะความจุแค่สามสี่พันคนเลยคุมได้ง่าย)

งานนี้มีคนได้ลายเซ็นต์ของKalafinaกันเพียบ(ผมก็ด้วย) ทั้งคนที่ซื้ออัลบั้มAfter Edenในงานและผู้โชคดี100คนจากการสุ่มเลขที่นั่ง ศิลปินเป็นกันเองมากๆ ผู้หญิงหลายคนปลื้มสุดขีดแบบแทบร้องไห้ตอนที่รู้ว่าจะได้ลายเซ็นต์ของKalafina

ที่อึ้งมากๆคือคนมาเลเซียกับสิงคโปร์นี่เต็มใจจ่ายจริงๆ(แค่ค่าเข้างานส่วนบูธขายของอย่างเดียวก็ปาเข้าไปราวๆ150บาทไทยแล้ว) ถึงได้มีคอนเสิร์ตเพลงอนิเมดีๆแบบนี้ดูกัน(บัตรนั่งรอบเดียวราคาราวๆพันแปด บัตรยืนเกือบๆเก้าร้อย) ส่วนบ้านเรานี่จากเหตุการณ์ที่ผ่านมาคงไม่น่ามีผู้จัดที่จะกล้าจัดคอนเสิร์ตเพลงอนิเมแบบเก็บตังค์แล้วมั้ง

ตามไปดูต่อที่

http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A12226526/A12226526.html

พรรคไหนกันแน่ที่ริเริ่มให้สหรัฐเข้ามาใช้สนามบินอู่ตะเภา

เป็นกระทู้ที่พูดถึง ข่าวประเทศสหรัฐอเมริกาขอใช้พื้นที่ในประเทศไทย

ความเห็นเจ้าของกระทู้

เห็นข่าวคนของพรรค ปชป. (มัลลิกา) ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลชี้แจงกรณีให้สหรัฐ
โดยองค์การนาซ่าขอใช้สนามบินอู่ตะเภา แต่นายกษิต ภิรมย์ อดีต รมว.ก.ต่างประเทศ(พรรค ปชป.)

กลับออกมาให้ข้อเท็จจริงว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ปลายรัฐบาลอภิสิทธิ์แล้ว
และนายอภิสิิทธิ์เองต่างหากที่เป็นผู้เชิญชวนสหรัฐมาใช้ประโยชน์จากสนามบินอู่ตะเภาของเราเอง

เพื่อเอาใจอเมริกาในขณะนั้น ดังนั้นพอทางสหรัฐเขาให้่องค์การนาซ่ามาขอใช้
สนามบินอู่ตะเภาตามที่นายอภิสิทธิ์เชิญชวน ลิ่วล้อพรรคปชป.ที่เกิดมาค้านทุกเรื่องก็ออกมาเรียงหน้ากันคัดค้าน

โดยเฉพาะมัลลิกาที่กล่าวหาว่าทางสหรัฐจะละเมิดอธิปไตยของเรา,
จะทำการจารกรรมข้อมูลลับ,จะชักศึกเข้าบ้าน ฯลฯ แล้วทำไมเวลานายอภิสิทธิ์ไปเชื้อเชิญ
สหรัฐตอนที่นั่งตำแหน่งนายกฯ ทำไมมัลลิกาและพวกจึงหุบปากไม่ออกมาโวยวาย
หรือแกล้งไม่รู้ น่าอับอายแทนพรรค ปชป.จริงๆ

ตอนนี้เสียรูปมวยตั้งแต่ตัวนายอภิสิทธิ์ที่ทำตัวเป็นตลกสภาโจ๊กยันลูกพรรคที่ทำพฤติกรรมอันน่ารังเกียจในสภา อย่างนี้ไม่มีวันชนะเลือกตั้ง กลับมามีอำนาจแน่นอน หรือว่าต้องการก่อเรื่องให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เพื่อกลับมาทางลัดอีกใช่มั้ยเอ่ย

ความเห็นที่ 1

ด่าไปก็เท่านั้นครับคนพวกนี้ ดูที่เขาสถาปนาเสียงข้างน้อย
พร้อมทั้งพยายามความชอบธรรมของเสียงส่วนใหญ่ก็รู้ครับ

พูดมาได้
"เสียงข้างน้อยที่มีความชอบธรรม เสียงส่วนมากที่ขาดความชอบธรรม"

ประชาชนได้ยิน ดีใจที่มีพรรคการเมืองแบบนี้ในประเทศสารขัณฑ์แบบนี้ 555

ภาพประกอบ



ความเห็นที่ 2

ยืมมาจากในนี้

ภาพประกอบ



ความเห็นที่ 3

ก็อย่างนี้แหละพอเรื่องจริงก็ใบ้แ_ก ไม่เข้ามาแถ เรื่องนิดเรื่องหน่อยทำเป็นตอดแต่เข้าใจแพ้ซำ้ซากก็ทำใจยากหน่อย อีกนานกว่าฝันจะเป็นจริงฝันเปียกไปก่อนเถอะกองเชียร์มาร์ค

ความเห็นที่ 4

กษิตยังดีกว่ามากหน่อย ตรงที่รู้ว่าโลกสมัยนี้โกหกอะไรกันไม่ได้แล้ว สักวันความจริงก็ต้องปรากฏ สู้ยอมรับก่อนถูกจับได้ดีกว่า ส่วนจะให้เหตุผลยังไงก็ว่ากันไป

ดีกว่าโกหกพกลม แก้ตัวไปเรื่อย จนลิ้นพันคอตัวเอง หมดเครดิต ในที่สุด

ตามไปดูต่อที่

http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P12228580/P12228580.html

ด้านมืดของญี่ปุ่น

เป็นกระทู้ที่พูดถึง ข่าวอาชญากรรมในประเทศญี่ปุ่น

ความเห็นเจ้าของกระทู้

คดีแทงคนตายที่โอซาก้า ทำให้นึกถึงคดีเก่าเมื่อปี 2008 ที่อากิฮาบาร่า

ต้องยอมรับว่าสภาพสังคมของญี่ปุ่นทุกวันนี้ มันเต็มไปด้วยความเครียดจริงๆ

คดีแทงคนตายล่าสุดที่ ชิมไซบะชิ-โอซาก้า ทำให้มีผู้เสียชึวิต
สองราย หลังจากนั้นไม่กี่นาที คนร้ายถูกจับทันที

ข่าวแบบนี้ไม่ใช่แค่น่ากลัวสำหรับคนที่อยู่ที่นี่ แต่ซิมไซบะชิ-โอซาก้า
มีนักท่องเที่ยวแต่ละปีมาก รวมทั้ง "ทัวร์คนไทย"

คดีที่เกิดไม่ต่างจากคดีแทงคนตายที่อะกิฮาบาระเมื่อปี 2008
คดีนั้นมีคนตายไป 8 บาดเจ็บอีกเป็นสิบ (มีการนำไปสร้างเป็นหนังแล้ว)
ซึ่งสาเหตุคือความเครียด

คดีที่ซิมไซบะชิ คนร้ายให้ปากคำกับตำรวจว่า เพราะความเครียด
ตกงานไม่มีเงินและคิดฆ่าตัวตาย จึงเดินไปซื้อมีดที่ห้างนึง

แต่แทนที่จะฆ่าตัวเองตาย กลับไล่แทงคนที่เดินผ่านไปมาละแวกนั้น
ซึ่งเป็นแหล่งชุมชน ร้านค้า คนผ่านไปมาเยอะ และเหตุผลสกปรกมาก
คือรู้ตัวว่าฆ่าคนตายแล้วอาจจะได้รับโทษประหารเพราะอยากตายอยู่แล้วจึงทำเพราะอยากได้รับโทษประหาร

ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีความปลอดภัยสูง แต่ใช่ว่าความปลอดภัยจะเป็น 100%

นักท่องเที่ยวคนไทยอยากให้ระวังตัวมากขึ้น คนญี่ปุ่นอยู่ในภาวะเครียด คนแปลก คนโรคจิตก็มากขึ้นด้วยเช่นกัน


Credit Twitter ของ Kat Fauntleroy Duck @redlovetree

ความเห็นที่ 1

บ้านเราที่เป็นข่าวลงหนังสือพิพม์ และที่ไม่เป็นข่าว เยอะจนน่ากลัว

อย่าไปว่า ญี่ปุ่นเลย อยู่บ้านเรา อันตรายกว่าเยอะ ระวังของใกล้ตัวดีกว่า
นั่งรถเมลล์ บางทีก็เจออาชีวะยิงใส่ ยาเสพติดซื้อง่ายขายคล่อง ปล้น จี้ ชิงทรัพย์กัน ทุกวัน

คิดว่าต่างประเทศเค้ามีคำเตือนแบบนี้ไหม เวลามาเที่ยวไทย ?

ความเห็นที่ 2

มันก็ต้องมีบ้างแหละ ถึงจะปลอดภัยข่าวอาชญากรรมก็ต้องมีบ้างอยู่แล้ว
ขนาดนอร์เวย์เค้าว่าปลอดภัยที่สุด มันยังมีเฟตุสะเทือนขวัญขนาดนี้
บนโลกนี้อะไรก็เป็นไปได้ ที่ญี่ปุ่น ปัญหาอย่างอื่น น่ากลัวกว่าไอ้ฆ่าตามท้องถนนเยอะ มันไม่ได้เกิดบ่อย อย่างเรื่องพวก ปัญหาพ่อแม่ทิ้งเด็ก ที่มันเป็นปัญหาจริงๆ เด็กตัวเล็กๆถูกแม่วัยรุ่นทิ้งให้ตายคาบ้านสองคน แม่มีอะไรกับสามีใหม่ปล่อยให้ลูกสาวนั่งอยู่นอกหน้าต่างหนาวแข็งตายแล้วไปแจ้งความหาลูกทั้งๆที่ตัวเองเอาไปฝังก็มี

เราคิดว่าเรื่องแบบนี้มันน่ากลัวกว่าเยอะ เพราะมันเป็นปัญหาของจิตใจมนุษย์ด้านมืดสุดๆ

ความเห็นที่ 3

ตอนนี้เราอยู่ญี่ปุ่นเช่าบ้านแบ่งห้องให้เช่า  มีผู้ชายห้องข้างๆอายุราวๆ36ละ
เช่ามา  15 ปี
 
ลูกเจ้าของบ้านที่มาดูแลแทนยังไม่เคยเห็นหน้าผู้ชายคนนี้เลย  งานการไม่ได้ทำ 
อยู่ห้องตลอด พ่อแม่จ่ายค่าห้อง ไม่ค่อยเปิดประตู พ่อแม่มาเคาะก็ยังไม่เปิดให้เลย
  
นี่เราก็สังเกตว่าเค้าจะออกมาซักผ้า ตากผ้า ตอนกลางคืนราวๆสามทุ่มอ่ะ  
ข้อมูลด้านบนนี่เราได้มาจากลูกเจ้าของบ้าน เค้ามาบอกว่าให้ระวังไว้บ้างก็ดี เพราะดูเค้าแปลกๆ

เพื่อนๆว่า เค้าน่ากลัมั๊ย เค้าจะเป็นพวกหนีคดีอะไรเปล่า เราชักเริ่มกลัวๆเค้าแล้วอยู่กับลูกช่วงกลางวันสองคนด้วย

ความเห็นที่ 4

ที่ญี่ปุ่นส่วนใหญ่อาวุธที่ใช้ฆ่ากันคือมีดเป็นส่วนใหญ่ ปืนไม่ค่อยมีนะ
ที่เมืองไทยส่วนใหญ่เป็นปืน ยิงกันแบบไม่เกรงกฏหมาย น่ากลัวกว่าอีก
แต่เราชอบความเป็นมนุษยชนของญี่ปุ่นดูแล้วเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะจนหรือรวย
ส่วนสังคมไทยเบ่งความรวยกันเยอะ บางคนรวยแต่ทำตัวง่ายๆติดดินก็มี

ในญี่ปุ่นคนที่น่ากลัวมากที่สุดคือ คนโรคจิต
ที่ออกมาจากโรงพยาบาลแล้วมารักษาตัวอยู่ที่บ้านมากกว่า
คนพวกนี้ต้องพึ่งพายาอยู่ตลอด บางทีคิดไปเองว่าตนเองหายดีแล้ว เลิกกินยา
มาทำงานหากเกิดอาการเครียด หรือ สะสารบางอย่างในสมองหายไป ก็จะเป็นขึ้นมาอีก
ถ้าเกิดขึ้นในระหว่างเดินทาง เขาสามารถทำร้ายคนได้เพราะจิตมันหลอน
บางคนก็ไม่ทำร้ายใคร แต่สามารถฆ่าตัวเองหรือกระโดดตึกตาย

ตอนอยู่ญี่ปุ่นกลัวคนโรคจิตเนี่ยแหละ บางคนแต่งสูทสะอาดเรียบร้อย
ถือกระเป๋าทำงานเท่ห์ เราไม่สามารถรู้เลยว่า เขาเป็นโรคจิต

คนไม่มีบ้านอยู่พวกHomelessหรือมนุษย์ลัง
ใส่เสื้อผ้าสกปรก เราเห็นแล้วไม่กลัวเลย เขาก็มีชีวิตเป็นของเขา
เราไม่อยากอยู่ใกล้ แค่ตีตัวออกห่าง ก็จบแล้ว
เรากลัวนั่งใกล้ติดกับคนแต่งสูทโรคจิต เราไม่รู้เลยนะว่ามันจะลุกขึ้นมาบีบคอเวลาไหน?
หรือจะเอามีดคัตเตอร์มากรีดๆ

อุ๊ย....... พิมพ์ไป เสียวไป

ตามไปดูต่อที่

http://www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H12222155/H12222155.html

วันจันทร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ถ้าพระเอกละครไทยหน้าไม่หล่อ...คุณจะดูละครเรื่องนั้นๆ ไหม

เป็นกระทู้ที่พูดถึง ละครกับหน้าตาของนักแสดง

ความเห็นเจ้าของกระทู้

พระเอกบางคนยังถูกวิจารณ์ซะเละเทะว่า ไม่เห็นจะหล่อเลย ไม่มีออร่า
ไม่ควรเล่นเป็นพระเอก เป็นพระรอง หรือตัวประกอบพอไหว

แล้วถ้านำพระเอกที่ไม่หล่อไม่มีออร่า มาเล่นละคร...จะดูกันไหม

แล้วเมืองไทยมีพระเอกคนไหนที่ไม่หล่อแล้วคนชอบดูละครเขาบ้าง

ปล.อย่างซีรี่ย์ญี่ปุ่นและเกาหลี ก็ยังพอมีพระเอกที่หน้าตาบ้านๆ อยู่หลายเรื่อง

เราคิดมากเลยนะถ้าเรื่องไหนพระเอกไม่หล่อ

ความเห็นที่ 1

ไม่หล่อแล้วมีเสน่ห์ไหมอ่ะ
ถ้าไม่หล่อแต่มีเสน่ห์ในการแสดงดูนะ
ถ้าหล่อแล้วแสดงไม่ดีไม่มีเสน่ห์อีกก็ผ่านอ่ะ

ความเห็นที่ 2

ละครแนวรักโรแมนติก พระเอกหล่อ นางเอกสวย มันชวนจิ้นมากกว่านะ

ถ้าเป็นแนวบู๊ล้างผลาญ หรือแนวตลกโปกฮา พระเอกจะหน้าป่วยแค่ไหนก็ช่างเหอะ
ดูแค่เนื้อเรื่องอย่างเดียว

และพระเอก-นางเอก ควรจะมีหน้าตาที่บาลานซ์กัน เช่น นางเอกสวยมาก
พระเอกก็ต้องหล่อมากทัดเทียมกัน ถ้าพระเอกขี้เหร่นี่กร่อยเลยนะ

ความเห็นที่ 3

คือถ้าไม่ถึงกับหน้าตามหาโจรซึ่งทำให้ดูแล้วอึดอัดใจ ก็ต้องดูองค์ประกอบอื่น ๆ ครับ
อย่างบางเรื่องบอกว่าพระเอกในเรื่องหล่อเว่อร์เลิศเลอ
แต่แคสต์เอาพระเอกหน้าตาจัดอยู่ว่าธรรมดามาแสดง ดูไปก็จะรู้สึกขัดไป อันนี้ก็ไม่ไหวอะ

แต่ถ้าบทมันสนุก นักแสดงแสดงได้ดี เอาแค่หน้าตาธรรมดา ๆ ที่แคสต์มาเหมาะกับบท
ผมว่าแบบนี้ดูสนุกกว่าเอาแค่หน้าตาแต่แสดงไม่ดีเยอะเลย

ความเห็นที่ 4

อยู่่ที่บทค่ะ ถ้าบทพระเอกยังคงมีคุณสมบัติพิมพ์นิยม รูปหล่อ พ่อรวยแบบนี้
คงไม่ดู เพราะแคสไม่ตรงบท และคงเชื่อไม่ได้ด้วย

แต่ถ้าพระเอกเป็นคนธรรมดา แต่มีความน่าสนใจในตัวบท และเนื้อหาก็ดูค่ะ
เพราะซีรี่ย์ญี่ปุ่นหลายๆ เรื่อง พระเอกไม่หล่อ แต่บทและฝีมือการแสดงของเค้ามีเสน่ห์มาก
จนกลายเป็นว่า ยิ่งดูพระเอกจากไม่หล่อ เป็นหล่อมาก กรี๊ดไปก็หลายเรื่อง

ตามไปดูต่อที่

http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A12218382/A12218382.html

ทำไมดารา วัยรุ่น ฝรั่ง ไม่นิยมศัลยกรรม เหมือน ดารา ไทย เกาหลี

เป็นกระทู้ที่พูดถึง การทำศัลยกรรมของดารา

ENG - Surgery with star

ความเห็นเจ้าของกระทู้

แต่จะทำพวก แก่ แก่ มากกว่า เช่น ชารอน สโตน จะดึงหนังหน้า

ความเห็นที่ 1

ทำคะ ทำเยอะกว่าไทยอีก

เห็นดั้งโด่ง ๆ อย่างงั้นนะ เค้ายังไม่พึงพอใจหรอ ไปฉีดไปเติมไปเหลาเพื่อให้มันเข้ารูป
หน้า ตา ผม จมูก ปาก สีผิว ทำหมด แม้แต่นิ้วมือนิ้วเท้ายังศัลยกรรมเลย
ไปตัดข้อเพื่อให้มันสั้นลง อีกสาระพัด ~

ความเห็นที่ 2

เยอะ

ภาพประกอบ









ความเห็นที่ 3

ทำกันเยอะแยะ เขาเป็นเจ้าตำรับก่อนเกาหลีซะอีก เกาหลีเพิ่งจะมาโด่งดังช่วงหลัง
หมอศัลยกรรมอเมริกันรวยกันถ้วนหน้า ส่วนใหญ่มักจะทำจมูกให้คนที่จมูกงุ้มเหมือน
แม่มดโดยเฉพาะคนที่มีเชื้อสายยิวทำกันมาก กับทำศัลยกรรมหน้าอก ส่วนตาไม่
ค่อยเห็นดาราทำเท่าไหร่เพราะฝรั่งตาจะสวยอยู่แล้ว

กับพวกดาราที่เริ่มแก่ตัวก็มีทำพวกดึงหน้า ฉีดโบท๊อกอะไรพวกนี้ แม้แต่อัล ปาชิโน
หรือไมเคิล ดักกลาสยังทำเลย แล้วพวกดาราหญิงจะไม่ทำเชียวหรือ

ความเห็นที่ 4

เวลาเห็นพวกด่าดาราเกาหลีหรือไทยว่าหน้าตาพลาสติก
แล้วเทิดทูนดาราฝรั่งนี่ เรานั่งหัวเราะ

ตามไปดูต่อที่

http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A12217548/A12217548.html

วันจันทร์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2555

รายการ "ฉันรักเมืองไทย" ทำไมถึงพาไปดูแต่ฝรั่งหรือคนจากประเทศพัฒนาแล้วที่มาอยู่เมืองไทย?

เป็นกระทู้ที่พูดถึง รายการทางโทรทัศน์ที่พาไปเจอชาวต่างชาติในไทย

ความเห็นเจ้าของกระทู้

สงสัยมานานแล้วครับว่าทำไมรายการ "ฉันรักเมืองไทย" ถึงพาไปดูแต่ฝรั่งหรือคนจากประเทศประเทศพัฒนาแล้วอย่างคนญี่ปุ่นที่มาลงหลักปักฐานอยู่ที่ประเทศไทย?

คือก็เข้าใจนะครับว่าคนเหล่านี้ทิ้งความเจริญทางวัตถุของประเทศตัวเองมาอยู่ที่เมืองไทยเพราะหลงมนต์เสน่ห์ทางวัฒนธรรมและความมีน้ำใจของคนไทย แสดงให้เห็นว่าเมืองไทยของเราน่าอยู่เพียงไหน

แต่ในอีกมุมหนึ่งคนจากประเทศเพื่อนบ้านที่หนีร้อนมาพึ่งเย็นในบ้านเรา เขาก็มีความรักเมืองไทยในฐานะที่เป็นดินแดนพึ่งพิงของเขาไม่แพ้ฝรั่งที่มาอยู่ในเมืองไทยหรือเปล่า? หรือแม้แต่ชนกลุ่มน้อยในประเทศไทยที่ยังไม่มีเลขประชาชน 13 หลัก เขาก็มีความรักเมืองไทยไม่แพ้กันหรือไม่? เพราะแม้เขาจะยังเข้าไม่ถึงสิทธิขั้นพื้นฐานของคนไทยเช่นพวกเรา แต่ดินแดนแห่งนี้ก็มีส่วนให้โอกาสและทำให้เขาเติบโตขึ้นมาได้ในทุกวันนี้เช่นกัน

ซึ่งหากรายการฉันรักเมืองไทยสามารถขยายมุมมองคนต่างถิ่นที่เข้ามาอยู่ในเมืองไทยให้รอบด้านกว่านี้ ก็จะทำให้รายการนี้เป็นรายการที่มีประโยชน์มากขึ้นในการช่วยให้เราเข้าใจตัวเอง เข้าใจคนอื่น และภูมิใจกับความเป็นไทยได้อย่างแท้จริง

ไม่ใช่แค่ความภูมิใจภายใต้จิตสำนึกแบบ "ชาตินิยม/อาณานิคมตกยุค" ที่รอฟังแต่เสียงชื่นชมจากฝรั่งมังค่าแต่กลับมองข้ามหัวคนที่ด้อยกว่าทั้งที่เราต้องพบเจอเขาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน? หรือหากฝรั่งเหล่านั้นไม่ชื่นชม เราจะไม่เกิดสำนึกที่จะรักเมืองไทยขึ้นมาเองได้เชียวหรือ?

ปล. รายการนี้เคยไปถ่ายทำเรื่องราวของฝรั่งคนหนึ่งที่ผมรู้จัก ฝรั่งคนนี้มาตั้งรกรากอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่และพยายามทำงานส่งเสริมชุมชนทั้งด้านชุมชนเกษตรอินทรีย์และชุมชนชนเผ่าในภาคเหนือ แต่รายการนี้นำเสนอแค่ฝรั่งคนนี้ชอบทำเกษตร ชอบอาหารไทย ชอบวัฒนธรรมไทย บลา ๆ ๆ โดยมองข้ามมุมมองความคิดและการทำงานเพื่อชุมชนและคนด้อยโอกาสในเมืองไทยของเขาไปทั้งหมด ผมดูแล้วรู้สึกเสียดายมาก

ความเห็นที่ 1

ตอนแรกอ่านผ่านๆ จะบอกว่าเป็น concept ของรายการ แต่พออ่านอีกรอบ
เข้าใจประเด็นค่ะ เห็นด้วยอย่างยิ่งประเทศเพื่อนบ้านหลายคน มาอยู่ในเมืองไทย
และทำดี เป็นตัวอย่างได้ก็มีมากมาย แต่ยังไม่ได้มานำเสนอค่ะ

ความเห็นที่ 2

เรามองว่ารายการนี้ เป็นรายการดูถูกประเทศตัวเอง โดยฐานความคิดจากคนที่นิยมฝรั่งหรือประเทศที่เจริญแล้ว

หากเราจะภูมิใจในชาติ มันตลกอ่ะ ที่ต้องค่อยให้คนอื่นมาบอกว่าเรามีดีอะไร ดูรายการคู่รักตะลอนทัวร์ ยังให้ความรู้สึกที่ดีกว่าเลย เพราะได้เห็นคนไทยเก่งๆ ในชุมชนสร้างนู้น สร้างนี้ รักษาภูมิปัญญาไทยแท้ๆ ด้วยมือของคนไทยเอง มันน่าภูมิใจกว่าเป็นไหนๆ

ความเห็นที่ 3

บอกตามตรงเราไม่ชอบรายการนี้เท่าไร เอาฝรั่งมาเเล้วก็ให้พูดชมเมืองไทย อย่างโน้นอย่างนี้

เมืองไทยดีอย่างโน้นอย่างนี้ เเล้วก็เหยียดประเทศนั้น ประเทศนี้
บางอย่างเราได้ยินเรารู้สึกจะอ้วกออกมาเลย ไม่ได้ดูถูกประเทศตัวเองนะแต่มันรู้สึกไม่ไหว

ความเห็นที่ 4

เราไม่คิดว่ารายการนี่ดูถูกประเทศตัวเองนะ เพราะวัดจากความรู้สึกที่ดูแล้วมันภูมิใจ ไม่ได้รู้สึกแย่เลย (บางตอนเรายังรู้สึกว่าอวยเวอร์ซะอีก) ส่วนรายการที่คนไทยยกย่องเมืองไทยหรือพาเที่ยวในประเทศก็มีมากมาย คิดว่าทางช่องอยากเสนอมุมมองที่แตกต่างมากกว่า

ดูแต่มุมของคนไทยอย่างเดียวมามากแล้วค่ะ ถ้าไม่คิดมากหรือมีอคติกับฝรั่งแล้วก็จะเห็นข้อดีหลายๆอย่าง วัยรุ่น หรือคนที่กำลังหลงกับกระแสวัฒนธรรมต่างชาติก็เข้าใจง่าย รู้สึกดีกับประเทศตัวเองโดยที่ไม่รู้สึกถูกยัดเยียดจนเกินไปค่ะ บางทีก็ปวดหัวแทนคนคิด

คอนเซ็ปต์รายการนะ ถ้าพาไปรู้จักวัฒธรรมประเทศอื่นก็โดนว่าไม่รู้จักส่งเสริมของดีในประเทศให้ฝรั่งดู พอพามาดูมุมดีๆในเมืองไทย ก็ด่าว่าทำไมต้องให้เค้ามาบอก ...เอาใจยาก

ตามไปดูต่อที่

http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A12186710/A12186710.html

วันศุกร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ดาราที่ไม่เล่นทวิต ไม่เล่นเฟชบุ๊ค สันนิษฐานได้มั้ยค่ะว่าไม่เอาแฟนคลับ?

เป็นกระทู้ที่พูดถึง แฟนคลับกับดาราที่ชื่นชอบ

ความเห็นเจ้าของกระทู้

ปลื้มดาราอยู่คนนึงค่ะ เลยรวมตัวกับแฟนคลับคนอื่นทำเวบให้.
แต่พี่เค้าไม่เคยเข้ามาดูเลย เสียดายค่าเวบมากๆ ผ่านมาปีหนึ่งเลยไม่ทำเวบต่อ
แต่มาทำทวิตกับเฟชแทน ก็บอกพี่เค้านะว่าทำให้ พี่เค้าก็รับรู้แต่ก็ไม่เข้ามาเล่นเลยย.

เวลาไปเจอพี่เค้าเทคแคร์ดีค่ะ แต่เรื่องคิวงานพวกอีเว้นท์
ต้องโทรถามเอาซึ่งไม่ค่อยรับโทรศัพท์ เป็นแบบนี้มาเรื่อยสามปีแล้วค่ะ.

เป็นไปได้มั้ยค่ะ ว่าเค้าไม่ได้อยากมีแฟนคลับเท่าไหร่.
เพราะว่าแฟนคลับคนอื่นๆก็เริ่มเหนื่อยใจ เลยว่าจะเลิกชอบกันแล้วค่ะ ปรึกษาหน่อยคะT-T

ความเห็นที่ 1

ตอบจริง ๆ นะคะ

ที่ทำเว็บให้เค้า เพราะต้องการให้เค้าเข้ามาดูเหรอ
ดาราบางคน อาจจะไม่ทำตัวสนิทสนมกับแฟน ๆ กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นพิเศษ
อาจะมีแฟน ๆ เยอะ ไม่อยากเลือกที่รักมักที่ชัง

ลองคิดว่าเราทำเพื่อเผยแพร่ผลงานของคนที่เราชอบให้คนอื่น ๆ ได้ดูด้วย
จะสบายใจกว่านะคะ ^^

ความเห็นที่ 2

บางทีการทำด้วยใจรักต่อให้เขาไม่มาดูก็ไม่น่าจะต้องเสียใจ
ถ้าแบบนี้ผมรักชอบใครสักคนที่ตายไปแล้วแล้วทำเว็บให้ผมก็คงไม่หวังให้เขาเข้ามาดูหรอก
ผมเขียนไปคุณก็อาจจะโต้แย้งว่า ก็คนที่คุณทำเว็บให้เขายังมีชีวิตอยู่นี่นา
แต่ก็นั่นน่ะครับ ตกลงคุณทำเพราะอะไร ทำเพราะรักจริงตั้งใจจริงหรือแค่ฉาบฉวย
และคุณก็บอกเองว่าเวลาเจอกันหรือเห็นกันตัวเป็นๆเขาก็ดูแลแฟนคลับดี

บางทีการมีเว็บของศิลปินสักคนไม่จำเป็นว่าศิลปินคนนั้นๆจะต้องเข้ามา
เว็บที่คุณทำอาจจะเป็นแค่แหล่งพบปะสังสรรค์แลกเปลี่ยนพูดคุยข้อมูลระหว่างคนที่ชื่นชอบแค่นั้นก็ได้
คุณจะเลิกชอบเพียงเพราะเขาอาจจะไม่สนใจเรื่องเว็บแฟนคลับแค่นี้น่ะเหรอครับ

รักและชื่นชอบเขาจริงหรือเปล่าเนี่ย ^^
เป็นศิลปินดารานี่น่าเหนื่อยใจออก ไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไรแบบไหนถึงจะถูกใจแฟนคลับ

ความเห็นที่ 3

บางทีเค้าก็ไม่มีเวลาเล่นหรอก

ถ้าจขกท.เป็นแบบเราคงเลิกทำไปนานแล้วมั้ง

เราทำเวบให้หยาดมาหลายปี ทำเพราะอยากสนับสนุนเค้า ส่วนเค้าจะเข้าหรือไม่เข้าก็แล้วแต่(เพราะเข้าใจว่าเค้าทั้งเรียนทั้งทำงาน)

แล้วของเรานี่ยิ่งกว่าจขกท.อีก เพราะทำอยู่คนเดียว ทั้งตัวเวบบอร์ด เวบมังติพลาย(ใช้เป็นฐานข้อมูล) ล่าสุดก็แฟนเพจ ไม่มีแฟนคลับคนอื่นช่วยทำนะ

ตัวเวบนี่หยาดไม่ได้เข้านานแล้ว ซึ่งเราก็เฉยๆเพราะไม่อยากไปกะเกณฑ์เจ้าตัวว่าต้องเข้านะ

ส่วนแฟนเพจหยาดเข้าอ่านประจำนะ แต่ส่วนมากจะบอกผ่านเราไปโพสให้แทนเพราะไม่ค่อยมีเวลา(บางครั้งก็ออกมาตอบเองถ้ามีเวลา)

คิวงาน เราก็แทบไม่เคยถามจากหยาดกับคุณแม่เลย บางงานคุณแม่ยังงง อ้าว รู้ได้ไง ก็หาเอาเองจากสื่อจากพีอาร์ ไม่ยากหรอก


เราว่า จขกท.ต้องถามตัวเองแหละว่าทำเวบไปเพื่ออะไร หาคำตอบนี้ได้ก็ถามตัวเองต่อว่า จะทำต่อมั้ยหรือจะจบแค่นี้

*เพิ่มเติม อย่างที่ข้างบนๆบอก อยู่ที่จขกท.ทำเวบเพื่ออะไร เพื่อให้ดาราสนใจแค่นั้นรึเปล่า หรืออยากส่งเสริม สนับสนุนดาราคนนั้นกันแน่

ความเห็นที่ 4

แม้จะรักกันแค่ไหน บางครั้งต้องมีช่องว่างระหว่างแฟนคลับ กับ ศิลปิน ด้วยนะค่ะ

การที่ศิลปินไม่ลงมาสุงสิงด้วย เพื่อกันข้อครหาหรือเปล่า เค้าอาจแอบดูอยู่ แต่ไม่แสดงตัว ไม่ต้องการเป็นว่า ตอบคำถามคนนี้ แล้วไม่ตอบคนโน้น แฟนคลับบางคนเอาใจยากเหมือนกัน เลยตัดใจไม่เข้าดีกว่า ปล่อยให้เป็นโลกส่วนตัวของแฟนคลับกันเอง

ถ้าพี่เค้ามีผจก. จริง ๆ โทรถามคิวเค้าน่าจะดีกว่า ศิลปินไม่ว่างคุยเป็นไปได้ หรือไม่สะดวกคุยก็มี

ตามไปดูต่อที่

http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A12169598/A12169598.html

( T-wind) ติ๊ก ปลื้มแฟนคลับจีนบินตรงมาประเทศไทยเซอร์ไพร์ซครบรอบวันเกิด

เป็นกระทู้ที่พูดถึง ดาราชายไทยที่คนจีนชื่นชม

ENG - china fan with thai star at thailand

ความเห็นเจ้าของกระทู้

แฟนคลับชาวจีนบินตรงมาเซอร์ไพร์ซวันเกิดพี่ติ๊ก
กลางงานเปิดตัวหนัง i miss you ถ้ารักฉัน อย่าคิดถึงฉัน

เครดิต youtube:DuangAesthetic

ติ๊ก ปลื้มแฟนคลับจีนเซอร์ไพร์ซ Birthday



ความเห็นที่ 1

เรื่องเล่าเช้านี้ ครอบครัวบันเทิง

ทัวร์แฟนคลับชาวจีนบินมาติดตามพี่ติ๊กเป็นเรื่องหลัก เที่ยวเมืองไทยเป็นเรื่องรอง

เรื่องเล่าเช้านี้ 31May12



ความเห็นที่ 2

รูปแฟนคลับชาวจีนเซอร์ไพร์ซวันเกิดพี่ติ๊กกลางงานเปิดตัวหนัง i miss you

เครดิตตามรูป

ภาพประกอบ



ความเห็นที่ 3

ภาพแฟนคลับชาวจีนบางส่วนถ่ายรูปกับพี่ติ๊ก

ภาพประกอบ



ความเห็นที่ 4

พี่ติ๊กกับแฟนคลับชาวจีนที่ช่อง 3

เครดิตรูป navigatortiktun

ภาพประกอบ



ตามไปดูต่อที่

http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A12174976/A12174976.html